Uncategorized
Fine Motor Activities – Threading
Activity: The threading of beads, buttons cotton-reels is a much loved activity by children in any kindergarten and its such an easy activity to replicate at home even if you don’t have the purpose made educational toys. The threading process develops hand-eye coordination and the smaller the threading hole the more intricate the motor movements need…
Read MoreFine Motor Activities – Chopsticks / Tweezers
Activity: Using chopsticks is a difficult enough skill to grasp as an adult let alone a toddler, but when they have been fashioned in such a way to secure the two ends together, this allows them to be used more as tweezers. This is achieved simply by fastening an elastic band around the two fatter…
Read MoreFine Motor Activities – Lolly Stick Sorting
Activity: Children are asked to pick and sort coloured straws or lolly sticks into the correct container or pot. In this way the activity also covers an important maths objective and also allows for language development. Differentiation:Straws would be used initially as they are easier to pinch between the fingers to pick up. As a child’s…
Read MoreKindergarten 2: Guided Play
Guided play is not just about playing. The toys and games are carefully selected by the teacher to either support what is being learnt in lessons or to build on basic skills such as problem solving, fine motor, or design. The children should be free to choose what they would like to play with, but…
Read Moreการเปรียบเทียบสมรรถนะ : ทำไมลูกของฉันไม่เหมือนกับลูกของคุณ
เราทุกคนนั้นชอบที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เราคิดหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นเมื่อพูดถึงลูกของเราเอง เรามักจะมีการเปรียบเทียบมากขึ้นกว่าตัวเราเองไปอีก พ่อแม่บางคนนั้นอยากที่จะให้ลูกของตัวเองนั้นดีที่สุดในห้องเรียน บางคนก็แค่อยากให้ลูกเรียนทันเพื่อนๆ และบางคนก็กลัวว่าลูกของตัวเองนั้นจะเรียนไม่ทันเพื่อนหรือมีพัฒนาการที่ช้ากว่าคนอื่นๆในห้องเรียน ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อแม่ในกลุ่มไหนก็ตาม การที่เอาลูกของตัวเองไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นนั้นมีแต่จะส่งผลให้คุณเกิดความเครียดและความวิตกกังวลมากขึ้น เด็กส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าใครฉลาดที่สุดในห้อง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการที่ทำให้เด็กรู้ว่าความฉลาดนอกเหนือจากตำราเรียนนั้นสำคัญกว่า เด็กทุกคนมีระดับของพัฒนาการที่แตกต่างกันไป ถึงแม้ว่าจะมีเด็กคนนึงที่มีพัฒนาการช้าแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นแบบนั้นตลอดไป เด็กสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกและความกังวลของคุณ ซึ่งนั่นอาจทำให้เค้ากลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยก็ได้ การที่คุณนั้นมีความกังวลมันอาจจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกคุณเองด้วยเช่นกัน จริงๆแล้วหนทางที่ดีที่สุดก็คือคุณควรจะลดความกังวลลงและหันมาสนใจเกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยพัฒนาลูกของคุณให้ดีขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า การผลักดันให้เด็กเป็นคนที่เก่งที่สุดหรือแม้แต่การผลักดันเค้าให้ทันเด็กคนอื่นๆนั้นเป็นการกดดันเค้ามากจนเกินไป ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่หาวิธีที่จะช่วยให้เค้าพัฒนาด้วยตนเองโดยที่ไม่เอาไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานของเด็กคนอื่นๆ ตั้งเป้าหมายตามความเป็นจริงของลูกของคุณ ให้กำลังใจเขาแต่ก็อย่ากลัวที่จะติเตียนเขาอย่างสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน คำแนะนำนี้อาจจะทำให้คุณคิดว่าคุณสามารถวางใจและผ่อนคลายไปได้ แต่ว่านี่ไม่เหมือนกับการเปรียบเทียบสมรรถนะกับเด็กคนอื่นๆ เด็กๆควรจะถูกผลักดันให้เป็นเด็กที่สนุกและมีความน่ารักน่าเอ็นดู พวกเขาควรที่จะได้รับทุกๆโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์และเสาะแสวงหา อีกทั้งยังควรที่จะได้รับของขวัญตอบแทนในทุกๆครั้งที่เขามีความสนใจอยากรู้อยากเห็นสิ่งต่างๆ เด็กๆจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากโรงเรียนและมันเป็นอะไรที่สำคัญที่พ่อแม่ควรจะหาหนทางที่ถูกต้องสำหรับลูกๆ
Read Moreประโยชน์ของการฝึกลอยตัวในน้ำขณะตั้งครรภ์
เมื่อเร็วๆนี้เพื่อนของผมได้เปิดศูนย์ลอยตัวในน้ำขึ้นที่กรุงเทพฯ จากความคิดเริ่มแรกที่จะเปิดตัวด้วยดีไซน์ที่สวยงามซึ่งตั้งอยู่แถวๆห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองตรงซอยสุขุมวิท 24 ใช้เวลาไปประมาณ 1 ปีกว่าที่ทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ ในขณะที่สิ่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากที่อเมริกาและอังกฤษ แต่ยังไม่ได้เข้ามาตีตลาดในเมืองไทยแต่อย่างใด และถ้าหากจะมีกิจกรรมใหม่ๆที่ผ่อนคลายนอกเหนือไปจากการนวดและสปาแล้วนั้น สิ่งนั้นก็ควรจะเป็นกิจกรรมการลอยตัวในอ่างน้ำ ผมเคยเห็นกิจกรรมแบบนี้ตอนที่อยู่ที่อังกฤษและเคยอยากที่จะลองทำดูบ้าง ทุกครั้งที่ผมไปว่ายน้ำผมมักจะชอบการลอยตัวในสระว่ายน้ำท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผ่อนคลายมากๆเลยทีเดียว ถ้าหากคุณไม่ได้ถนัดการลอยตัวในน้ำอยู่แล้วนั้น มันต้องใช้ความพยายามพอสมควรสำหรับการลอยตัวในสระว่ายน้ำ แต่ในอ่างน้ำลอยตัวนั้นมีการใส่เกลือลงไปในน้ำมากพอสมควร ฉะนั้นจึงเป็นอะไรที่ง่ายสำหรับการลอยตัวและแทบจะไม่จมเลยก็เป็นได้ มันเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและผ่อนคลายได้อย่างเหลือเชื่อเหมือนกับว่าได้ลอยตัวอยู่ในอวกาศที่ไม่มีแรงโน้มถ่วงตัวเราไว้นั่นเอง ร่างกายของเราจะได้รับการรีเซทใหม่ทั้งหมด น้ำหนักและความกดดันทั้งหมดถูกเอาออกไปจากกล้ามเนื้อและข้อต่อของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่พิเศษสุดไปเลย การผ่อนคลายกล้ามเนื้อและข้อต่อของร่างกายเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้คุณทำกิจกรรมนี้อย่างสม่ำเสมอแต่นั่นไม่ใช่ประโยชน์อย่างเดียวที่ได้รับ เมื่อผมสอบถามไปเกี่ยวกับประโยชน์อื่นๆที่ได้รับ ผมถึงกับทึ่งเมื่อได้ทราบประโยชน์ทางการแพทย์ซึ่งมีอันนึงที่ผมสังเกตุเห็นนั่นคือประโยชน์สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผมมีความคิดที่จะเขียนบทความนี้ขึ้นมา มันยังเป็นความรู้ใหม่ที่ผมคิดว่าผู้อ่านทุกคนต้องรู้สึกสนใจอย่างแน่นอนว่าได้มีศูนย์ลอยตัวในน้ำเปิดตัวขึ้นในกรุงเทพฯ และมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเหมาะที่จะเอาเข้าไปรวมอยู่ในกิจวัตรประจำวันของพวกเขาหรืออาจจะนำไปแทนที่การนวดรายสัปดาห์ของพวกเขาเลยก็ได้ การเดินไปไหนมาไหนในขณะที่ตั้งครรภ์หรือมีภาวะโรคอ้วนนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างลำบากสำหรับร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บและปวดเมื่อยตามร่างกายขึ้นได้ และร่างกายเองก็จะพยายามที่จะบรรเทาอาการเจ็บนี้โดยการปรับเปลี่ยนท่าทางต่างๆ อาการปวดหลังนั้นมักจะถูกคิดอยู่เสมอว่าเกิดมาจากการปวดเท้าและปวดขา เนื่องจากว่าร่างกายจะพยายามปรับเปลี่ยนท่าทางเพื่อบรรเทาอาการเจ็บหรือปวดของร่างกายเอง และจากการทรงตัวที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาตินี้เองที่นำไปสู่ปัญหาที่แย่ลงไปอีก เมื่อครรภ์มีการพัฒนาไปสู่ระยะที่ 2 หรือระยะที่ 3 นั้นจะเกิดการกดทับบริเวณปอดและอวัยวะภายในร่างกายซึ่งทำให้การนอนลำบากขึ้น เมื่อได้ลองพูดคุยกับคนที่ได้ลองกิจกรรมการลอยตัวในน้ำหรือคนที่ทำอยู่เป็นประจำนั้น ทุกคนต่างบอกว่ามันจะทำให้คุณนอนหลับสบายเลยทีเดียว นี่เป็นเหตุผลที่พอจะทำให้คุณสนใจขึ้นมาบ้างรึยัง แต่เดี๋ยวก่อนมันมีประโยชน์มากกว่านั้น เกลือยิบซอมหรือเกลือแมกนีเซียมซัลเฟต ซึ่งเป็นเกลือที่ใส่ลงไปในอ่างน้ำนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่ดึงเอาแมกนีเซียมที่ร่างกายสำรองไว้ไปใช้จนหมดและเพิ่มระดับของสารแอดรีนาลีนขึ้น เกลือยิบซอมจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในขณะที่ลอยตัวอยู่ในอ่างน้ำและเสริมแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น …
Read More5 สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยส่งให้ลูกน้อยของคุณเข้านอน
จากที่คุณได้ติดตามอ่านบทความของเราเกี่ยวกับการอดนอนของเด็กวัยหัดเดินนั้น วันนี้เรามี 5 สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยส่งให้ลูกน้อยของคุณเข้านอนได้ง่ายและเร็วขึ้นมานำเสนอกัน สถานีปกป้องฉันให้หลับฝันดี โมบายกล่อมเด็กที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งทำงานอย่างชาญฉลาดโดยจะมีเสียงเพลงบรรเลงหมุนเวียนกันไปเมื่อลูกน้อยขยับตัวในอิริยาบถต่างๆในขณะนอนหลับ เครื่องนี้จะบรรเลงเพลงและกระจายแสงอ่อนๆออกมาช่วยกล่อมให้ลูกน้อยหลับสบายในเตียงของเขา ในตัวเครื่องจะมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวและบรรเลงเพลงและเสียงอย่างคล้องจองกัน แสงไฟสลัวอ่อนๆจะเปิดขึ้นอัตโนมัติถ้าลูกน้อยตื่นขึ้นในตอนดึก เครื่องเพิ่มความชุ่มชื้นไอระเหยแบบเย็น เครื่องจะฉายแสงดาวที่ดึงดูดความสนใจจากลูกน้อยของคุณให้มองตามและพร้อยหลับไป อีกทั้งยังมีละอองน้ำที่สะอาดกระจายออกมาจากตัวเครื่องเพิ่มความชุ่มชื้นนี้ในขณะลูกน้อยนอนหลับ ในขณะที่เครื่องนี้สามารถใช้งานได้ทุกวันโดยการปรับระดับให้ต่ำลง มันยังเป็นตัวช่วยอุ่นเครื่องที่ดีซึ่งช่วยลูกของคุณได้ในบางวันที่เขานอนไม่หลับด้วย ตัวเครื่องเองนั้นยังสามารถขจัดความเสี่ยงที่ไม่ทำให้ละอองน้ำกระจายไปเข้าตาของลูกคุณด้วย ขวดนมทำความอุ่นอัตโนมัติ ด้วยรูปทรงและองค์ประกอบการทำความอุ่นอัตโนมัติที่ทันสมัยนี้จะทำให้คุณหมดกังวลกับขวดนมที่ไม่น่าดึงดูดความสนใจแบบในอดีตไปเลย ลูกของคุณจะได้ดื่มนมอุ่นๆไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือที่ไหนก็ตาม เบาะเสริมที่นอนระบบสั่นช่วยให้ลูกน้อยหลับง่าย สอดเบาะนี้เข้าไปใต้ที่นอนของลูกน้อย จะเกิดระบบสั่นเบาๆเพื่อกล่อมให้ลูกน้อยหลับสบาย ซึ่งเป็นอะไรที่ได้ผลค่อนข้างดีที่เดียว ตุ๊กตาหมีเคลิ้มหลับ เป็นสิ่งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยแพทย์ ซึ่งอ้างอิงเอาเสียงที่เกิดขึ้นขณะที่ทารกยังอยู่ในครรภ์มารดามาใช้เพื่อช่วยกล่อมให้ลูกน้อยหลับ เมื่อลูกตื่นหรือขยับตัวจะมีเซ็นเซอร์ที่ค่อยจับการเคลื่อนไหวและเปิดเสียงออกมาขับกล่อม
Read Moreเราควรจะทำยังไงดีกับการอดนอนของเด็กๆ
คุณประสบปัญหาการปลุกลูกๆให้ตื่นนอนในตอนเช้าอยู่หรือไม่ พวกเขามีอาการสมาธิสั้นระหว่างวันหรือไม่สามารถจดจ่ออยู่กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งได้รึเปล่า มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นหรือมีพฤติกรรมที่ดื้อและไม่เชื่อฟังเกิดขึ้นรึเปล่า คุณอาจจะคิดไปได้ว่าอาการเหล่านี้ จริงๆแล้วเป็นลักษณะปกติที่เกิดจากการอดนอนของเด็กๆ และโรคอ้วนเองก็ถูกโยงว่าเป็นผลมาจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอของเด็กๆ เช่นกัน แล้วอย่างนี้เด็กจะต้องมีปริมาณการนอนเท่าไหร่ถึงจะถูกต้อง เมื่อลูกตื่นนอนนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอแล้วหรอกหรอ โดยทั่วไปแล้วเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4 ถึง 5 ขวบขึ้นไปควรจะนอนประมาณ 13 ชั่วโมงต่อวัน และแน่นอนว่าเด็กที่อายุน้อยกว่านั้นควรจะได้นอนกลางวันประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาต้องการการพักผ่อนที่น้อยลงในช่วงเวลากลางคืน นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับข้อจำกัดช่วงเวลาการตื่นและการนอนของลูกของคุณ เด็กๆหลายคนมักจะไม่ยอมนอน ถ้าหากพวกเขาไม่ได้ถูกกล่อมให้นอนในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด พวกเขาอาจจะดูตื่นตัวและมีความสุขดีแต่นี่แหละเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าจะนำไปสู่การไม่ยอมเชื่อฟังและมีพฤติกรรมที่ดื้อรั้นเกรี้ยวกราดในที่สุด ดังนั้นเทคนิคก็คือการทำให้ลูกของคุณนอนหลับในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแต่นี่ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายๆ คนจะบอกคุณว่าพูดนั้นง่ายกว่าทำได้ ช่วงเวลาการนอนจะต้องไม่มีความหมายแฝงในแง่ลบกับเด็กๆในวัยหัดเดิน มันจำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่พวกเขารู้สึกสนุกและสบายใจที่จะทำ นี่เป็นสิ่งที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างมากและความสม่ำเสมอโดยอาศัยสภาวะแวดล้อมในการนอนและกิจวัตรประจำวันเป็นตัวช่วยซึ่งนี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมากแต่คุณก็ควรจะสนุกไปกับมันโดยหาหนทางที่สร้างสรรค์ที่คุณจะสามารถโน้มน้าวลูกของคุณให้เข้านอนในเวลาที่เหมาะสมได้ สภาพแวดล้อมที่พิเศษ สภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นแค่ในช่วงเวลานอนคือหนทางที่ดีที่สุดหนทางหนึ่งที่สามารถโน้มน้าวเด็กในวัยหัดเดินที่กำลังเล่นอยู่นั้นให้หันเข้ามาสู่โหมดการนอนได้โดยไม่เกิดการต่อต้านแต่อย่างใด ช่วงเวลานอนจะไม่แย่งเวลาเล่นของพวกเขาไปทั้งหมดแต่การปรับเปลี่ยนจะทำให้อะไรๆง่ายขึ้นและลดความกดดันลงไปได้เป็นอย่างมาก เพื่อนของผมคนนึงแปะสติ๊กเกอร์ดวงดาวเรืองแสงไว้เหนือเตียงนอนของลูกของเขา และเขายังเปิดเพลงกล่อมเด็กที่ฉายภาพประกอบบนผนังด้วย ซึ่งสภาพแวดล้อมแบบนี้จะเกิดขึ้นแค่ในช่วงเวลานี้ของวันเท่านั้นเพื่อเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกของเขาเข้านอน และนี่ไม่ใช่การกระตุ้นที่มากจนเกินไปซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ตัวกระตุ้นใดๆที่เด็กๆเอื้อมไม่ถึงหรือแตะต้องไม่ได้อย่างที่กล่าวไปนั้นเป็นตัวช่วยได้อย่างดีเลย การผสมผสานระหว่างไฟสลัวๆกับเพลงบรรเลงนั้นดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ได้ผลเป็นอย่างดี เมื่อลูกน้อยนอนอยู่บนเตียงก็จะได้ยินเสียงเพลงที่โปรดปรานบรรเลงขึ้นและเสียงเล่าเรื่องคอยขับกล่อมเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเพื่อนของผมบอกว่านี่เป็นสิ่งที่เขามักจะทำให้ลูกของเขาอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่ใช่จะได้ผลทุกครั้งเสมอไป บททดสอบและข้อผิดพลาดคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและความมุ่งมั่นคือกุญแจหลักที่คุณจะหาหนทางที่ได้ผลกับลูกของคุณในที่สุด การแบ่งเวลาทีละนิด เมื่อลูกของคุณเริ่มที่จะเข้านอนด้วยตัวเองได้แล้ว คุณก็ค่อยๆลดเวลาที่จะใช้อยู่กับเขาในห้องของเขาลงทีละนิด ยิ่งคุณทำแบบนี้ได้เร็วเท่าไหร่มันก็จะช่วยให้ลูกของคุณเข้านอนด้วยตัวเองได้เร็วเท่านั้น แน่นอนว่าเสียงเพลงและนิทานที่ขับกล่อมนั้นดีมากสำหรับลูกน้อยที่เขาจะได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาและการฟัง อีกทั้งยังเป็นตัวกระตุ้นที่ดีอีกด้วย แต่คุณจะต้องจัดสรรเวลาให้ดีสำหรับกระบวนการที่จะพาลูกเข้านอนด้วย การจะเริ่มทำสิ่งเหล่านี้อาจจะต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์หรืออาจจะเป็นเดือนกว่าที่จะทำให้ลูกของคุณนั้นปรับตัวทีละนิดจนสามารถเข้านอนได้ด้วยตัวเองโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในห้องของเขาเป็นเวลานานๆ อย่างเช่นจากที่เคยใช้เวลาประมาณ 10-15นาที สามารถที่จะลดลงมาเหลือเพียงแค่ 5-10นาทีได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับกิจวัตรประจำวันโดยทั่วไปของคุณด้วย เด็กเล็กๆเองก็อาจจะตื่นขึ้นมากลางครันในตอนกลางคืน …
Read MoreThe Benefits Of Floating During Pregnancy
Recently a good friend of mine decided to open a float centre in bangkok. From the initial idea to the opening of the beautifully designed space located in Avenue Mall, Sukhumvit 24 took about a year to complete. Whilst very popular in the U.S and and the U.K. the concept hadn’t yet caught on here.…
Read Moreทำไมเด็กที่เรียนสองภาษาถึงได้เกรดดีกว่าเด็กที่เรียนภาษาเดียว หาคำตอบกันได้ในบทความนี้กันเลย !!!
ในปัจจุบันการเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายมากจึงทำให้ผู้คนได้มีโอกาสที่เรียนรู้วัฒนธรรมของต่างชาติได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นการให้บุตรหลานได้มีการเรียนรู้หลายภาษาตั้งแต่อายุที่ยังน้อยจะทำให้มีการเรียนรู้ได้ค่อนข้างเร็ว โดยการเริ่มต้นการเรียนสองภาษาในปัจจุบันมีหลากหลายที่เปิดรับไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือเนอสเซอรี่ให้ท่านได้เลือก ซึ่งการดได้เรียนรู้สองภาษาไม่ได้ทำให้มีโอกาสได้งานดีอย่างเดียวแต่ยังทำให้พัฒนาทักษะในด้านอื่นๆด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เด็กที่เรียนสองภาษาไม่ได้เรียนดีแต่ในโรงเรียนของพวกเขาเท่านั้นแต่ยังสามารถเรียนได้ดีในสถานศึกษาที่อื่นด้วยเช่นกัน จากผลงานวิจัยพบว่า เด็กสองภาษามักจะมีผลการเรียน มีความสนใจในบทเรียนได้ดีกว่าเด็กที่เรียนภาษาเดียว สิ่งเหล่านี้จะเห็นได้ชัดในส่วนของการทำงานของสมองของเด็กเมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตซึ่งจะมีความสามารถกลั่นกรองข้อมูลและรู้ตัวว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ การเรียนรู้หลายภาษาตั้งแต่แรกเกิดยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและส่งผลให้มีการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตันทำการศึกษาโดย ดร.Kuhl ได้ศึกษาการทำงานของสมองโดยใช้เครื่องจำลองการทำงานของสมอง (MEG) พบว่า ทารกที่เรียนสองภาษามีกระบวนการรับรู้และมีการปรับตัวกับสถานการณ์ได้ดีมากกว่าทารกที่เรียนรู้แค่ภาษาเดียว โดยทั่วไปแล้วความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะทางภาษาจะมีความยากมากขึ้นเมื่อมีอายุที่มากขึ้นซึ่งผู้ใหญ่หลายท่านคิดว่ามันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตแต่อย่างไร ซึ่งจริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างแรงกระตุ้น แต่อย่างไรก็ตามสมองของเด็กจะมีความแตกต่างกันไปเมื่อได้เรียนรู้ภาษามากกว่าหนึ่งภาษาในเวลาเดียวกันซึ่งสมองของทารกจะสามารถแยกแยะภาษาพื้นฐานจากการได้ยินเสียงหรือการใช้น้ำเสียงที่ใช้เรียกได้เป็นร้อยๆ เสียง แต่ในทางตรงกันข้ามการเรียนรู้ของผู้ใหญ่จะมีความสามารถที่เรียนรู้ได้ช้าลง และมีความผิดพลาดในหลักไวยากรณ์มากขึ้นเช่นกัน จะเห็นได้จากงานวิจัยของสมองของผู้ที่เรียนสองภาษาที่มีผลต่อการชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม พบว่า สมองของผู้ที่เรียนสองภาษาจะมีเนื้อเยื่อของสมองทึบและมีความต่างกันของการเชื่อมต่อของโครงสร้างสมองและจุดที่น่าสนใจก็คือจะพบมากในส่วนของผู้ใหญ่ที่ได้เรียนสองภาษาตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 5 ปี ในแง่มุมด้านอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับด้านสุขภาพหรือเกี่ยวกับผลทางด้านการเรียน พบว่า ผู้ที่เรียนภาษาที่สองจะมีความเข้าใจและยอมรับของความแตกต่างหรือความหลายหลายในวัฒนธรรมได้ดีกว่า ในปัจจุบันเราสามารถจำแนกผู้ปกครองออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่หนึ่งเป็นผู้ปกครองที่พยายามพูดหรือสอนภาษาที่สองที่บ้าน รวมไปถึงการเล่านิทานก่อนนอนหรือดูการ์ตูนในภาษาต่างๆ ในขณะที่กลุ่มที่สองเป็นผู้ปกครองที่พูดเพียงแค่ภาษาเดียวซึ่งเป็นการตัดโอกาสการได้เรียนรู้ภาษาที่สองโดยสื้นเชิง แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถเริ่มที่เปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดของการเรียนภาษาที่สองโดยการเริ่มเลือกโรงเรียนหรือเนอสเซอรี่ที่เป็นสองภาษาหรือนานาชาติเพื่อทำให้เด็กๆ ได้คุ้นเคยสภาพแวดล้อมการใช้ภาษาที่สองหรือการเรียนรู้จากหลากหลายวัฒนธรรมของเพื่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการมอบของขวัญชิ้นที่สำคัญที่สุดที่คุณจะมอบให้แก่บุตรหลานของท่าน
Read More