ประโยชน์ของชีสที่ไม่ควรมองข้าม

ชีสคือผลิตภัณฑ์นม โดยนำเอาส่วนของโปรตีนไม่ใช่ส่วนของไขมันมาใช้ประโยชน์ซึ่งความอร่อยของชีสอยู่ที่ความหอม มัน เข้มข้น ซึ่งความเข้มข้นที่ว่านั้นมาจากการแยกโปรตีนออกจากนมโดยการเติมเอนไซม์เรนนินซึ่งทำให้โปรตีนที่แขวนลอยอยู่ในนมที่จับตัวเป็นหรือที่เรียกว่า “เคิร์ด” โดยที่เคิร์ดนี้นั่นก็คือชีสนั่นเอง แต่เป็นชีสสดที่ยังไม่ได้ผ่านการบ่มหรือที่เรียกว่าเฟรชชีส  ซึ่งถ้านำไปผ่านการบ่มกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา เติมเครื่องเทศ แต่งสี แต่งรส ก็จะทำให้ได้ชีสที่หลากหลายชนิดขึ้น ชีสกับประโยชน์ ใช่ว่าจะมีแต่ชีสที่มีรสชาติอร่อยเท่านั้นแต่ชีสยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายอย่างเพราะเมื่อชีสทำจากโปรตีนในน้ำนมจึงให้ปรตีนเหมือนเนื้อสัตว์ ที่สำคัญชีสยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส สังกะสี และวิตามินบี12 อีกด้วย ดังนั้นชีสมีประโยชน์ดังต่อไปนี้ -ช่วยบำรุงกระดูก  ชีสอุดมไปด้วยสารอาหารที่เหมาะสำหรับเด็กวัยเจริญเติบโตเพราะชีสให้พลังงาน แคลเซียม และโปรตีนสูง  โดยเฉพาะโปรตีนและแคลเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้วิตามินดีและแมกนีเซียมในชีสยังทำหน้าที่ร่วมกันกับแคลเซียมเพื่อช่วยให้กระดูกแข็งแรง ลดการเกิดโรคกระดูกพรุนในผู้สูงอายุได้ -ช่วยดูแลรักษาสุขภาพฟัน  ช่วยป้องกันฟันผุโดยโปรตีนในรูปแคลเซียมและฟอสฟอรัสในชีสจะเป็นตัวช่วยป้องกันสารเคลือบฟัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มฟองน้ำลายที่ช่วยล้างกรดและน้ำตาลในช่องปากอันเป็นสาเหตุของฟันผุทั้งยังมีน้ำตาลในปริมาณต่ำ ได้แก่ น้ำตาลแล็กโทส  มอลโทส  และกลูโคส  และแม้ว่าชีสจะมีปริมาณไขมันมากกว่านมแต่ก็เป็นสารอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย -ช่วยควบคุมน้ำหนัก  สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักและคลอเรสเตอรอล แต่ชื่นชอบการรับประทานก็สามารถเลือกทานชีสประเภทไขมันต่ำ เพราะจะมีคลอเรสเตอรอลต่ำด้วยเช่นกันและโปรตีนสูงเพราะโปรตีนช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอยู่ท้องได้นานกว่าประเภทข้าวขัดสี ทำให้ไม่ต้องการอาหารในปริมาณมากพร้อมทั้งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเร็วเกินไป ชีสจึงเป็นแหล่งอาหารที่ดีโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะตามมาในภายหลัง -ช่วยเพิ่มน้ำหนัก การกินชีสจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มได้เนื่องจากชีสบางประเภทอุดมด้วยไขมันสูงทำให้ได้พลังงานจากไขมันเพราะฉะนั้นการบริโภคในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็จะช่วยให้ได้พลังงานสูงและช่วยเพิ่มน้ำหนักแก่คนที่ต้องการได้ -ช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย เนื่องจากชีสเป็นแหล่งที่มาของโปรตีนที่ดีคือมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณสูง อีกทั้งเป็นสารอาหารที่สำคัญของร่างกายเพราะ 80 เปอร์เซ็นต์ของร่างกายประกอบด้วยโปรตีน หากร่างกายขาดโปรตีนจะก่อให้เกิดผลเสีย ดังนั้นถ้าเราได้รับโปรตีนเพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและช่วยประสานแต่ละเซลล์ให้ยึดติดกันเป็นเนื้อเดียว ช่วยปกป้องริ้วรอย รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นผมและเล็บ โปรตีนช่วยทดแทนเซลล์ของร่างกายที่สูญเสียไปในแต่ละวัน ชีสก็มีโทษเหมือนกัน…

Read More

บร็อคโคลี่ป๊อปโปะ

บร็อคโคลี่ผักสีเขียวที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นป้องกันโรคมะเร็ง ลดระดับคลอเรสเตอรอล ป้องกันแผลในกระเพาะอาหาร และบำรุงสายตา เป็นต้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินซี  วิตามินเค และวิตามินเอ รวมทั้งกรดโฟลิกและเส้นใยอาหาร แถมยังเป็นแหล่งแร่ธาตุชั้นดี เช่น โปแทสเซียม, ฟอสโฟรัส, แมกนีเซียม และวิตามินอีกับวิตามินบี 6  เราพอรู้ประโยชน์ของเจ้าบร็อคโคลี่มาพอสมควรแล้วเรามาเริ่มทำบร็อคโคลี่ป๊อบโป๊ะกันเลยดีกว่าคะ วัตถุดิบ -บร็อคโคลี่   4  ถ้วย -เชดด้าชีส  1  ถ้วย -ผงหอมใหญ่อบแห้ง  ½  ช้อนชา -ผงกระเทียมอบแห้ง  ¼  ช้อนช้า -ไข่ไก่  1  ฟอง -เกล็ดขนมปัง  ¼  ถ้วย -เกล็ดขนมปังของญี่ปุ่น  ½  ถ้วย  (panko crumbs) ขั้นตอนการทำ นำบร็อคโคลี่ที่หั่นไว้แล้วไปนึ่งประมาณ 2-3 นาทีหรือจนกว่าจะนิ่ม นำบร็อคโคลี่ที่นิ่มแล้วบิ้ดด้วยผ้าให้เอาน้ำออกให้หมดแล้วเปลี่ยนไปใส่ภาชนะใหม่และผสมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใช้สกู๊ปตักไอศครีมตักส่วนผสมทั้งหมดขึ้นมาไว้เป็นลักษณะก้อนแล้วนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง และนำไปวางไว้ในกระดาษไข (ที่เอาไว้อบคุ๊กกี้) เพื่อแตรียมเข้าอบ เมื่อเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำเข้าเตาอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 10-15…

Read More

พิซซ่าพริกหยวกสายรุ้ง

พริกหยวกบางคนอาจชอบหรือบางคนอาจจะยี้เพราะกลิ่นของมันแต่หารู้ไม่ว่ามีประโยชน์ที่ซ่อนอยู่มากมาย  คือในพริกหยวก 1 ถ้วยประกอบด้วย RDA 300 เปอร์เซ็นต์และ 100 เปอร์เซ็นต์ในวิตามินซีและวิตามินเอ ตามลำดับแถมยังมีไฟเบอร์สูงที่เหมาะกับเด็กๆอีกด้วยคะ วัตถุดิบ -ยีสต์  2 ¼  ช้อนชา -น้ำตาลทรายแดง  ½  ช้อนชา -น้ำเปล่า  1 ½  ถ้วย -เกลือ  1  ช้อนชา -น้ำมันมะกอก  2  ช้อนโต๊ะ -แป้งข้าวสาลี  1 ½  ถ้วย -แป้งข้าวสาลีเอนกประสงค์  1 ¾  ถ้วย -มอสซาเรลล่าชีส  8  ออนซ์ หรือประมาณ 230 กรัม -ซอสพิซซ่า  2  ถ้วย -พริกหยวกสีแดง  1  ลูก -พริกหยวกสีส้ม  1  ลูก -พริกหยวกสีเหลือง  1 ลูก -พริกหยวกสีเขียว  …

Read More

สมูทตี้สีทอง หรือ Power Gold Smoothie

ว่ากันว่าสีส้มหรือสีทองที่ได้จากสูตรนี้มันอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอโดยส่วนใหญ่มักจะได้จากแครอท ซึ่งสมูทตี้สีทองที่เราจะทำกันมักจะนิยมทานกันก่อนมื้อเช้าและคุณประโยชน์ที่ได้ไม่ใช่จะมีแต่วิตามินเอเท่านั้น แต่เต็มไปด้วยวิตามินซี บี6 แมกแนเซียม และไฟเบอร์ต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สร้างสารแอนตี้ออกซิแดนท์ทั้งนั้น  เคล็ดลับง่ายที่จะทำให้สมูทตี้แก้วนี้อร่อยขึ้นนั่นก็คือใช้แคทรอทนึ่งจากนั้นนำไปใส่ในโถปั่นจนได้น้ำแครอทที่เข้มข้น และจะทำให้สมูทตี้แก้วนี้มีเนื้อที่เนียนมากยิ่งขึ้น วัตถุดิบ -แครอท  1  ถ้วย -น้ำสับปะรด  ¾  ถ้วย -น้ำส้ม 100%  ½  ถ้วย -น้ำผึ้ง  1  ช้อนโต๊ะ -โยเกิร์ตรสธรรมชาติ  ½  ถ้วย -น้ำแข็ง ขั้นตอนการทำ นำแครอทที่เตรียมไว้ไปนึ่ง ถ้าหากไม่มีโถปั่นแบบความแรงสูง หากมีให้ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ปั่นแครอทและน้ำสับปะรดให้ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นเติมส่วนผสมที่เหลือไว้ทั้งหมดลงในโถปั่นแล้วปั่นไปจนกว่าจะกลายเป็นสมูทตี้ เทใส่ในแก้วหรือภาชนะที่เตรียมไว้เสริฟได้เลย ขอบคุณสูตรจาก www.superhealthykids.com

Read More

เคล็ดลับการสอนลูกให้รักการเรียนรู้

การช่วยเหลือสนับสนุนลูกทำกิจกรรมต่างๆเมื่อมีเวลาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ก็เหมือนกันการออกกำลังกายไปในตัวนั้นแหละค่ะ หรือถ้าหากเราไม่มีเวลา หรือจะเป็นช่วงเวลาตอนกลางคืนก็ได้สัก 10 ถึง 15 นาทีกับลูก อาจจะดีกว่าหลายๆ ชั่วโมงในวันเสาร์ แต่ถ้าหากว่าทั้งคุณแม่และคุณลูกไม่สนใจที่จะทำกิจกรรมร่วมกัน เรามีเคล็ดลับที่ทำให้กิจกรรมต่างๆ น่าสนใจมากขึ้นค่ะ ออกแบบการเรียนรู้ให้สนุกสนาน ถ้าหากว่าคุณมีพื้นที่ว่างสำหรับกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กๆ ได้สนุกสนานไปกับการเรียนรู้กับคุณ เพราะถ้าหากว่าคุณทำให้การเรียนรู้กลายเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อ เด็กก็จะไม่อยากจะเรียน ต้องคิดบวกนะคะคุณพ่อคุณแม่ ถ้าหากว่าลูกของคุณเริ่มรู้สึกเบื่อและไม่พอใจ ก็ให้พวกเขาได้พักเบรกสัก 5-10 นาทีให้เขาได้อารมณ์ดีก่อน แล้วค่อยกลับมาเรียนกันต่อ ไม่มีใครอยากทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่หนักใจกันหรอกค่ะ คิดในด้านบอกเสมอ แต่ก็ต้องมีตำหนิติเตียนกันบ้าง ช่วยลูกให้เขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขาหวัง ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจเมื่อเขา ประสบความสำเร็จ ถ้าหากว่าเขายังไม่เคยทำงานใดๆ สำเร็จเลย เราก็ต้องสนับสนุนและให้กำลังใจเขาเสมอ ตื่นเต้นไปกับลูกๆ อ่านหนังสือกับลูกๆ เพราะการอ่านไม่ได้เป็นแค่การเรียนการอ่าน เป็นมันเป็นการสอนให้ลูกของเราเป็นคนรักการอ่านอีกด้วยค่ะ สอนให้ลูกเรียนรู้ได้โดยตัวเอง สนับสนุนให้ลูกอยากเรียนรู้ได้ด้วยตัวเขาเอง เพราะการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองคือเป้าหมายหลักของการศึกษา ถ้าหากว่าคุณสามารถทำให้ลูกอยากเรียนรู้ด้วยตนเองได้ ลูกของคุณก็จะเป็นคนที่ก้าวหน้าอย่างแน่นอน พูดคุยกับครูประจำชั้นของลูกว่ากำลังเรียนเรื่องอะไรกันอยู่ รวมไปถึงวิธีการเรียนการสอนที่เขาใช้สอนกันด้วย เพราะไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่วันนี้ครูสอนอีกแบบหนึ่งและพรุ่งนี้อีกแบบหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เด็กสับสนได้ เป็นตัวอย่างในการเรียนรู้ที่ดี เด็กๆจะปฏิบัติตามพ่อแม่และมักจะอยากทำตามพ่อแม่ทุกอย่าง ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชอบการเขียน มันก็เป็นได้ว่าลูกของคุณก็อยากทำตามคุณด้วย แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่วอกแวกทำอะไรไม่ค่อยจะลุล่วง ลูกของคุณก็จะไม่อยากจะเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้ นอกจากการบ้านที่ลูกๆได้รับจากโรงเรียนแล้ว…

Read More

ไอศครีมช็อคโกแลตฟักทอง

วัตถุดิบ -น้ำกะทิ  1  ถ้วย -ฟักทองบด  ½  ถ้วย -น้ำผึ้ง  1  ช้อนโต๊ะ -ผงฟักทอง (pumpkin pie spice) -ช็อคโกแลต  ¼  ถ้วย ขั้นตอนการทำ ผสมน้ำกะทิ ฟักทอง และน้ำผึ้งในโถปั่น จากนั้นผสมให้เข้ากันดี เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วให้เทลงในพิมพ์ไอศครีมที่เตรียมไว้ นำไปแช่ในตู้เย็นเมื่อแข็งได้ที่แล้วนำออกจากพิมพ์ จากนั้นละลายช็อคโกแลตที่เตรียมไว้ แล้วนำไอศครีมที่เอาออกจากพิมพ์ไปจุ่มลงในช็อคโกแลตที่เตรียมไว้ หรือแค่ทำลายบนไอศครีมก็ได้ แล้วแต่ชอบเลยคะ นำไปแช่ในตู้เย็นอีกครั้งจนไอศครีมแข็งได้ที เสริฟลงในจานสวยงามหรือจะถือทานก็ได้เลยคะ ขอบคุณสูตรจาก www.superhealthykids.com

Read More

ผลไม้แห้งนี้แหละตัวดีเลย!!

ผลไม้แห้งคือ อาหารว่างที่หาทานได้ง่ายและเหมาะแก่การพกพาไปรับประทานหลังอาหารเที่ยง แต่อาจจะมีบางอย่างที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับผลไม้แห้ง เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง เปรียบเทียบกับผลไม้สด ผลไม้แห้งยังมีประโยชน์ได้ถึงครึ่งของผลไม้เลย ในขณะเดียวกันคุณจึงรับประทานน้อยลงเพราะคิดว่าคงได้รับสารอาหารที่เท่ากันกับการกินผลไม้สด การทำเช่นนี้สามารถเป็นอันตรายได้เพราะว่าเราไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ พวกเรากินผลไม้แห่งจนติดเป็นนิสัย เพราะว่า มันง่ายต่อการพกพา ไม่ว่าจะขนาดของมันหรือการบรรจุ ถึงแม้ว่าผลไม้แห้งจะมีประโยชน์มากกว่าน้ำผลไม้เพราะว่าในผลไม้แห้งยังประกอบไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยในการขับถ่าย แต่เราก็ต้องอย่าลืมว่า ผลไม้แห้งก็เต็มไปด้วยน้ำตาลและแคลอรี่นะคะ อีกอย่างที่คุณควรคำนึงก่อนจะซื้อผลไม้แห้งคือยี่ห้องของมัน เพราะบางโรงงานเพิ่มน้ำตาลลงในผลไม้แห้งเพื่อให้มีรสชาติที่หวานขึ้น ถึงแม้ว่าน้ำตาลในผลไม้จะเยอะแล้วก็ตาม (น้ำตาลฟรุกโตส) คุณไม่ต้องการจะเพิ่มปริมาณน้ำตาลในร่างกายของคุณแน่นอน แต่บางยี่ห้อไม่ได้เพิ่มปริมาณน้ำตาล เพราะฉะนั้น จงอ่านอย่างระวัดระวังก่อนจะซื้อกันล่ะค่ะ ผลไม้แห้งบางชนิดเมื่อโดนความร้อน ก็ได้สูญเสียโภชนได้ าการไปหมดแล้ว ตัวอย่างเช่น วิตามิน C เพราะมันคือวิตามินที่สามารถโดนทำลายได้เร็วที่สุดเมื่อโดนความร้อนหรือแห้ง ฉะนั้นถ้าหากว่าคุณอยากได้รับวิตามินและกรดซิทริกอย่างเต็มร้อย ผลไม้สดเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะ ควรดูผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกบริโภคว่ามีกรดกำมะถันหรือเปล่า เพราะบางโรงงานใช้สารเคมีเพื่อไม่ให้อาหารมีเชื่อหาหรือแบคทีเรีย ถึงแม้ว่าสารเหล่านี้จะมีปริมาณที่น้อยก็จริงแต่ถ้าหากว่าคุณรับประทานมาเป็นเวลายาวนานก็สามารถส่งผลให้เกิดปัญหาในช่วงท้องได้ ลมพิษ และถึงขั้นเป็นโรคหอบหืด เมื่อผลไม้แห้งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอาหารประเภทอื่นที่ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย ฉะนั้นก็เราก็ควรจะเลือกสรรเฉพาะยี่ห้องที่ดีต่อสุขภาพ ไร้สารเคมีดีกว่านะคะ

Read More

นานาประโยชน์กับเกลือหิมาลายัน

เกลือหิมาลายันหลายคนเคยได้ยินมาบ้างและอีกหลายคนไม่เคยได้ยินมาก่อน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเกลือสีชมพูหรือเกลือหิมาลายันกันคะ เกลือหิมาลายันเป็นแร่เกลือที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลกมีแหล่งกำเนิดมาจากภูเขาในแถบประเทศจีน เนปาล พม่า ปากีสถาน ภูฏาน อัฟกานิสถาน และอินเดีย และอีกอย่างที่คงจะสงสัยนั่นก็คือสีของเกลือนั่นเอง ทำไมมันถึงเป็นสีชมพูละ นั่นก็เพราะว่าการที่เกลือเป็นสีชมพูหรือสีแดงบ่งบอกถึงว่าเกลือนั่นมีแร่ธาตุมากนั่นเอง ทำไมถึงเลือกที่จะทานเกลือหิมาลายัน -สามารถปรับสมดุลเกลือแร่ในร่างกายได้ดี -ลดความเสี่ยงภาวะขาดน้ำ -ปรับสมดุลน้ำทั้งภายในและนอกร่างกายให้สมดุลกัน -ปรับสมดุลของ pH และช่วยลดการระเหยของกรดต่างๆ -ช่วยรักษาสมดุลความดันของโลหิต -เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง -ปรับสมดุลการเผาผลาญหรือระดับเมตาบอลิซึมในร่างกาย -ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น นานาประโยชน์ -นำไปทำอาหารและถนอมอาหาร เช่น การหมักหรือดองด้วยเกลือ เวลานำไปใช้สามารถได้เหมือนเกลือสีขาวที่เราใช้ที่บ้านได้เลย -สำหรับเสริฟอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหวานได้หมด โดยทำเป็นแท่นหรือเป็นภาชนะแทนจานได้เลย เช่น เสริฟพวกผลไม้ ซูซิ ผัก หรือชีส หรือนำไปแช่แข็งก็สามารถนำไอศครีมได้เช่นกัน เป็นต้น -สำหรับการตกแต่งในจานอาหารหรือตกแต่งบ้านจากโดยใส่ในภาชนะบรรจุที่สวยงามก็ได้เช่นกัน -สามารถใช้แช่ในอ่างอาบน้ำเพื่อดีท็อกซ์ เพราะแร่ธาตุจากเกลือจะเข้าไปช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ -ใช้เป็นตัวฟอกอากาศหรือตัวดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในห้องได้เป็นอย่างดี ขอบคุณข้อมูลจาก www.realfarmacy.com

Read More

สิ่งที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับการแพ้ท้อง

อาการแพ้ท้องคืออะไร ?         อาการแพ้ท้องเริ่มมาจากการความรู้สึกคลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งเป็นอาการของที่ผู้มีครรภ์ใช้ช่วง 3 เดือนแรก เริ่มจากช่วงเข้าสู่อาทิตย์ที่ 4 ถึง 6 ของการตั้งครรภ์  อาการแพ้ท้อง หรือภาษาอังกฤษเรียนว่า “Morning sickness” แต่อาการแพ้ท้องไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในตอนเช้า และมันก็เป็นเรื่องที่ปกติที่ผู้หญิงจะรู้สึกคลื่นไส้ตลอดทั้งวัน หลายๆคน ถึงกับแพ้ท้องเป็นเวลาถึง 14 อาทิตย์ด้วยกัน  และอาการก็จะหายไปเองโดยธรรมชาติ แต่สำหรับบางคน มันไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เพราะอาจจะมีอาการคลื่นไส้ตลอดระยะเวลาการทั้งครรภ์กันเลยทีเดียว ทำไมผู้ที่ตั้งครรภ์ถึงต้องมีอาการคลื่นไส้และอาเจียน            สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้องยังไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างแน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่าเกิดจากเพราะการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะทางร่างกาย และเคมี  ที่มีการเปลี่ยนแปลงในขณะตั้งครรภ์ สาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการแพ้ท้องอาจจะมีผลมาจากระดับฮอร์โมนในร่างกายเพิ่มขึ้น เช่น Estrogen และ Human Chorionic Gonadotropin (HCG) ฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะผลิตขึ้นเยอะมากเมื่อมีการตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์ มักจะมาพร้อมกับความเครียด ปัญหาเกี่ยวกับช่องท้อง และมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นต่างๆ มีงานวิจัยงานหนึ่งบอกว่า ถ้าหากลูกในท้องเป็นผู้หญิง แนวโน้มที่จะประสบกับอาการแพ้ท้องก็จะมีมากขึ้น อาการแพ้ท้องมีผลกระทบต่อลูกในท้องหรือเปล่า ถ้าหากว่าคุณสามารถจัดการเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินของคุณได้ดี นั้นรวมไปถึงการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณที่พอดี ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ ที่เป็นตัวชี้ว่านั้นคือสาเหตุที่ทำให้คุณมีอาการแพ้ท้อง…

Read More

ลูกชอบไปกัดเพื่อนที่โรงเรียน ควรทำอย่างไรดี

จะหยุดลูกน้อยจากการกัดได้อย่างไร เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง พ่อแม่หลายคนจะต้องประสบกับการที่ต้องเจอลูกน้อยของตัวเองไปกัดเพื่อนของเขา เป็นปัญหาหนึ่งที่ธรรมดามากเลยค่ะ และเป็นสิ่งที่พ่อแม่มือใหม่ทุกคนต้องเตรียมตัวไว้ จากประสบการณ์ของดิฉันเอง เมื่อลูกเรียนรู้ที่จะกัดแล้ว คุณแน่ใจได้เลยว่าเขาก็จะกัดอีก และก็มักจะเป็นเด็กคนเดิมเสมอที่ลูกคุณเล็งจะกัด  และมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักถ้าเราจะปล่อยให้เรื่องการกัดนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือไม่สนใจอะไรเลย ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาวิธีที่จะจัดการกับเจ้าจอมซนละก็ เราก็ต้องมาดูที่ไปที่มาของปัญหาการกัดของเขากันก่อนค่ะ ทำไมลูกของดิฉันถึงชอบไปกัดคนอื่นๆ นะ มีอยู่หลายเหตุผลด้วยกันที่ทำให้ลูกของเราชอบไปกัดเด็กคนอื่นๆ รวมไปถึงการกัดผู้ใหญ่ด้วย ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ปกติสำหรับพัฒนาการของเด็กทุกๆคน เช่น ฟันงอก เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่จะคิดว่าลูกของตนจะชอบกัดนู้นนี้ตลอดเวลาในช่วงอายุ 1-3 ขวบ และมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติมากและเขาก็จะหยุดกัดไปเอง นั้นเพราะว่าพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ฟันกำลังงอกและรู้สึกเจ็บๆ คันๆ จึงต้องกัดต้องเคี้ยวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเขาเองรู้สึกดี ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ทำให้พ่อแม่หลายคนไม่สบายใจ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องธรรมชาติแค่ไหนก็ตาม การป้องกัน   เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทำตลาดอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับเด็กมีเยอะแยะมากมาย อุปกรณ์บางอย่างก็มีประสิทธิภาพในการใช้งาน บางอย่างก็ไม่ดีเลย แต่ยางกัดผลไม้ (Teething Rings) เป็นอุปกรณ์ที่มเราใช้กันมานานและมีประสิทธิภาพในการใช้งานอีกด้วยค่ะ การสำรวจพัฒนาการของเด็ก เป็นเรื่องที่ปกติที่เด็กๆ จะเลือกใช้มือของเขาสำรวจโลกที่พวกเขาอยู่ พวกเขาก็ใช้ฟันของเขาด้วย แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ดี พวกเขาแค่สำรวจสิ่งที่พวกเขาเห็นกับสัมผัสของพวกเขา  แน่นอนว่าเด็กๆ ทุกคนจะลองเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าปากของเขา การป้องกัน การได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกี่ยวกับลูกไม่ว่าทั้งที่บ้านหรือที่โรงเรียน จะเป็นการเตรียมพร้อมที่ดีที่เราจะได้รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะเริ่มกัด พ่อแม่ต้องแน่ใจว่าเราให้ความสนใจเพียงพอต่อลูก การได้อ่านหนังสือด้วยกัน เล่นด้วยกันข้างนอก การประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ล้วนเป็นโอกาสที่ดีที่พ่อแม่จะได้อยู่ด้วยกันกับลูกและรู้จักพวกเขามากขึ้น…

Read More