ป้องกันลูกจากการหลงทาง : กิจกรรมการเรียนรู้

  ลูกของคุณรู้จักและเขียนชื่อของเขา ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์กันหรือเปล่า? เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่เด็กๆ ควรเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญของตัวเองเพื่อความปลอดภัยของเขาเองตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ มาดูแบบแบบฟอร์มชื่อและที่อยู่สำหรับน้องๆวัยอนุบาลเพื่อให้เขาได้ฝึกจำ เขียน และเรียนรู้ข้อมูลประจำตัวของตัวเองกัน วิธีการสอนลูกเกี่ยวกับที่อยู่ (Address) มีหลายแบบฟอร์มให้น้องๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชื่อของเขา  ให้เขาได้นึกภาพ เขียนตาม และเริ่มฝึกเขียนด้วยตัวเอง ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเขา มีหลายๆ ขนาด รูปแบบ ให้เลือกนำไปฝึกสอนกับลูก หรือ น้องๆอนุบาลที่โรงเรียน   ฝึกลูกๆ ให้รู้จักชื่อ, ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ทุกวันๆ (Name, Address, Phone Number) เขียนที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของลูกไว้บนแบบฟอร์มเพื่อช่วยให้เขาได้จำ และเห็นมันทุกกวัน จนกระทั้งเขารู้ว่ามันเป็นข้อมูลที่สำคัญจริงๆ ฟอร์มนี้สามารถใช้สอนลูกๆ เรียนการเขียนชื่อของตัวเอง ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ สำหรับเด็กที่เด็กลงมา แนะนำให้เขียนตัวบรรจงจากนั้นก็เอาไปเคลือบ และติดไว้ที่เขาสามารถเห็นได้บ่อยๆ และให้ลูกๆเขียนตามจนกระทั้งเขาสามารถจำได้และเขียนเองได้   Visit us: www.beyc.co.th  

Read More

พัฒนาการของทารกอายุ 2 เดือน ( 2 month old's development)

  ทารกจะมีการเริ่มต้นอย่างไรบ้างในเดือนที่ 2 ? สิ่งที่ทำให้พ่อแม่มีความสุขที่สุดเมื่อเขาอายุได้ 2 เดือน คือ การได้เห็นรอยยิ้มที่เบิกบานของทารก เตรียมตัวรอดูรอยยิ้มนั้นกันได้เลย อีกอย่างหนึ่งคือ ลูกอาจจะไม่หลับตอนกลางคืนยาวนานเท่าที่ควร แต่เขาจะนอนตอนกลางวันเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เขาตื่นจนเพียงพอ นั้นก็จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้มีเวลาชาร์ตแบตเตอรี่ให้ร่างกายรอเขาตื่นได้เลย เมื่อไหร่คุณแม่จะได้เห็นรอยยิ้มเขาเป็นครั้งแรก ? เดือนนี้จะเป็นเดือนที่คุณจะได้รับสิ่งตอบแทนจากเขา เตรียมตัวให้พร้อมเลยค่ะ เพราะนั้นคือ รอยยิ้มที่ใสๆ ปราศจากฟันของเขานั้นเอง และมันก็เป็นเวลาคืนทุนแล้วด้วย จากที่คุณเคยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เขา ป้อนนม ป้อมน้ำ อาบน้ำ จูบ และ กอดเขาโดยไม่มีการตอบกลับใดๆ จากเขาเลย เดือนนี้คุณจะได้รับความรักจากเขาคืนแล้วค่ะ รอยยิ้มที่เขาให้จะไม่ใช้แค่เรื่องที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่มันจะทำให้คุณมีความสุขขึ้นมาทันที ไม่ว่าวันนั้นคุณจะผ่านอะไรมากก็ตาม พัฒนาการมองเห็นของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ? เดือนที่ 2 ทารกเริ่มจะเคลื่อนไหวและมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งที่เขาเห็น รวมไปถึงสิ่งของที่เขาเห็นเป็นสีต่างๆ รวมไปถึงรายละเอียดและความซับซ้อนของมัน ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบ สี หรือ รูปร่าง พยายามให้เขาได้ลองจับและหลายๆสิ่ง สามารถเป็นของเล่นหรือลูกบอลนุ่มๆ เขาสามารถนอนหลับในตอนกลางคืนได้หรือไม่ ? ถ้าหากว่าลูกของคุณสามารถนอนหลับได้สนิทในตอนกลางคืน นั้นคือ คุณโชคดีมาก เพราะทารกส่วนมากแล้วจะตื่นตอนกลางคืนเพราะความหิว แต่ข่าวดีก็คือว่า ทารกๆ…

Read More

พัฒนาการของทารกอายุ 1 เดือน (1 month old’s development)

ทารกจะมีการเริ่มต้นอย่างไรบ้างในช่วง 1 เดือนแรก ? ทารกของคุณจะแข็งแรงขึ้น เขาอาจจะสามารถศรีษะหัวขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถยกขึ้นไว้ได้นาน คุณแม่หรือคุณพ่อยังคงต้องช่วยประคอง  แต่เขาก็เริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ได้แล้ว เขาสามารถที่จะตอบกลับได้เมื่อเขาเห็นคุณ พัฒนาการการสัมผัสของลูกเป็นอย่างไรบ้าง ? ทารกน้อยของคุณเริ่มที่จะคุ้นเคยกับสิ่งต่างๆรอบๆ ตัวเขา ไม่ว่าจะเป็นการมองและการได้ยินที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และเขาจะสังเกตสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นมากขึ้น คุณอาจจะเห็นถึงพัฒนาการการตอบสนองเมื่อเขาได้เห็นของเล่นหลากหลายสีสัน และเมื่อเขาได้เห็นหน้าคุณหรือเสียงเขาก็อาจจะตอบสนองต่อเสียงที่ดังขึ้นโดยทันที เมื่อไหร่ที่ทารกสามารถยกศีรษะ ? ทารกยังคงต้องการความช่วยเหลือขณะที่คุณอุ้มเขาไว้อยู่ แต่กล้ามเนื้อคอของเขาจะแข็งแรงขึ้น นั้นมายความว่าเขาอาจจะสามารถยกศรีษะของเขาได้ในไม่ช้าเมื่อเขาได้นอนหงาย หรือเมื่อคุณอุ้มเขาในท่าพาดบ่า (upright position) เขาอาจจะยกศีรษะได้ไม่นาน ในขณะที่นอนคว่ำ และเขาอาจจะสามารถพลิกไปซ้าย/ขวาได้ เมื่อลูกของคุณนั่งอยู่ในรถเข็น หรือเป้อุ้มเด็กหน้า/หลัง เขาสามารถยกศีรษะขึ้นได้ถ้าหากเขาได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่  คุณสามารถใช้หมอนรองคอเพื่อช่วยให้ศีรษะเขาตั้งได้ง่ายขึ้น เมื่อไหร่ที่ทารกสามารถหยิบจับของเล่นได้ ? ถ้าหากว่าคุณวางของเล่นไว้ใกล้กับลูก เขาอาจจะจ้องมองของเล่นนั้นและพยายามเอื้อมมือไปหยิบ แต่เขายังไม่สามารถหยิบได้ เจ้าตัวเล็กของคุณจะพบว่าขาและแขนของเขานั้นไม่ได้อ่อนข้อ ความสามารถที่จะหยิบจับสิ่งของจึงต้องใช้เวลาเป็นเรื่องปกติ คุณสามารถสังเกตการเริ่มที่จะคลายมือทีละนิดๆ เมื่อคุณจับฝ่ามือของลูก เขาจะกำนิ้วของคุณไว้แน่น นั้นคือพัฒนาการเจริญเติบโตธรรมชาติของทารกในวัยนั้น การหยิบจับสิ่งของได้เป็นคือความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับทารกในวัย 8 เดือน ลูกจะถ่ายทอดพัฒนาการที่เขาได้พัฒนาแล้วอย่างไร ? เจ้าตัวเล็กวัย  1 เดือนของคุณจะมีความคล่องแคล่วและเข้าสังคมได้แล้ว และอาจจะส่งเสียงอ้อ แอ้ เพื่อให้คุณได้รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร…

Read More

กังวล?มันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าที่ลูกก่อนไว้เรียนไม่อยากรับประทานอาหาร

ถ้าหากว่าการเจริญเติบโตของลูกเป็นไปอย่างปกติ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถึงแม้ว่าเขาดูเหมือนจะไม่กินมากเท่าที่คุณอยากให้เขากิน  ความจริงก็คือว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เด็กในวัยนี้จะมีปัญหาในการนั่งและรับประทานอาหารอยู่กับที่ กินบ้างหยุดบ้าง และจุกจิกเกี่ยวกับอาหารที่เขาจะกิน เป็นไปได้ที่คุณอยากจะบังคับเขาให้กินเยอะขึ้น แต่อย่าเชียวนะคะ! ถ้าหากคุณทำให้เขาอึดอัดมากเท่าไหร่ เขาก็จะต่อต้านมากขึ้นเท่านั้นและจะไม่กินเลย วิธีที่สามารถทำได้คือ การจัดแจงและให้เขาได้รู้จักกับอาหารที่มีประโยชน์ และรับประทานเองให้เขาได้เห็นเป็นตัวอย่าง เมื่อเขาเห็นดังนั้น เราก็ให้เขาเลือกที่จะรับประทานเอง ปริมาณเท่าไหร่ ไม่สำคัญ เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวโหยแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่ควรจำไว้คือ การเจริญเติบโตที่ปกติ คือตัวบอกถึงการได้รับโภชนาการอย่างครบถ้วน และถ้าหากว่าลูกของคุณได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นทางด้านความสูงและน้ำหนักตัว  (ซึ่งกุมารแพทย์ทั่วไป หรือ ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านโภชนาการสามารถให้คำตอบคุณได้ ) หมายถึงเขาได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และคุณยังอยากให้เขารับประทานมากกว่านี้ และเป็นกังวลคุณสามารถปรึกษากุมารแพทย์ทั่วไปคุณเพื่อความสบายใจได้ค่ะ ในขณะที่ลูกของคุณได้รับแคลอรีอย่างเพียงพอในการเจริญเติบโต คุณอาจจะเป็นกังวลว่าเขาได้รับได้แคลอรีจากอาหารที่ควรได้รับ พยายามให้เขากินอาหารที่เขาอยากกินไปก่อนประมาณ 1 อาทิตย์ (โดยไม่พยายามบังคับเขา หรือแสดงความไม่พอใจให้เขาเห็น) คุณอาจจะพบผลลัพธ์ที่น่าทึ่งก็ได้ ถ้าหากเขาดูเหมือนจะไม่กินอาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง อาจจะให้เขาได้ลอง รับประทานอาหารชนิดนั้นสักพัก ถ้าหากว่าไม่ได้ผล คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารชนิดวิตามินรวมที่เหมาะสมต่อความต้องการของลูกของคุณ Visit us: www.beyc.co.th Source: BabyCentre

Read More

กลยุทธ์การสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia Approach)/ปรัญชาการสอนที่โรงเรียนของเราเลือกปฏิบัติ

[vc_row][vc_column][vc_column_text]    กลยุทธ์การสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย Reggio Emilia พัฒนามาจากชื่อของเมืองเรกจิโอ เอมิเลีย Reggio Emilia เป็นชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ในเอมิเลีย โรมัญญา (Emilia Romagna) ในตอนเหนือของประเทศอิตาลี ในช่วงหนึ่งหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2  Loris Malaguzzi  คืออาจารย์หนุ่มรูปงามผู้ค้นพบเทคนิคนี้  และได้ร่วมมือกับผู้ปกครองในบริเวณนั้นเพื่อสนับสนุนเกี่ยวกับการดูแลเด็กเล็ก โดยมีแรงบันดาลใจจากผู้หญิงที่ถูกใช้แรงงาน จากนั้นมา เทคนิคในการสอนนี้ได้ถูกพัฒนามาเป็นเวลา 50 ปี เพื่อเป็นโปรแกรมการสอนที่พิเศษกว่าโปรแกรมอื่นและเป็นโปรแกรมที่ครูผู้สอนเด็กเล็กทั่วโลกจับตามอง สิ่งที่เราจะได้จากระบบการศึกษาเชิงผสมนี้ คือความน่าตื่นเต้นและความท้าท้าย หรือที่เรียกว่า Complex System ทำให้ครูผู้สอนอย่างพวกเราเห็นถึงความเป็นไปได้ของสิ่งต่างๆ ถ้าหากว่าเราเต็มใจที่จะเสี่ยงและไม่ยึดติดกับประเพณีดั้งเดิม Reggio Emilia Approach คือ ระบบการศึกษาเชิงผสม (Complex System ) ได้เป็นที่ยอมรับและมีการปรับใช้ในหลายๆ มุมมองพื้นฐานในงานของ Dewey, Piaget, Vygotsky รวมถึงนักปรัชญาคนอื่นๆ อีกมากมาย ระบบการศึกษาเชิงผสมได้ประกอบไปด้วย กฏของการประสานงานร่วมกันระหว่างนักเรียน ครู และผู้ปกครอง รวมไปถึงโครงสร้างร่วมของความรู้ (Co-construction…

Read More

FAQ/ความเครียดมีผลกระทบถึงทารกในท้องหรือไม่

ฉันตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์แล้ว เครียดและกังวลมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเครียดนี้จะมีผลกระทบถึงทารกในท้องหรือไม่ ?  เป็นคำถามที่พบบ่อยมากค่ะ เรามาดูคำตอบกันเลย ถ้าหากว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่และรู้สึกเครียดและกังวล นั้นคือสัญญาณที่ดีที่ทั้งคุณและลูกที่จะสุขภาพที่แข็งแรง ความเครียดอย่างรุนแรงพบได้น้อยมากในผู้ที่ตั้งครรภ์เพราะมันสามารถส่งผลกระทบกับพัฒนาการของทารก  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเครียดบ้างเป็นบางครั้ง เพราะนั้นจะทำให้คุณและทารกในท้องได้พบเจอวิธีการลดความเครียดลง พวกเราทุกคนต่างเคยประสบกับสภาวะความเครียดในหลายๆ รูปแบบในชีวิตของเรา และร่างกายของเราก็ถูกสร้างมาเพื่อต่อสู้กับมันเช่นกัน หลังจากผ่านพ้นความเครียดเหล่านี้ไปแล้วฮอร์โมนที่ขึ้นๆลงๆ ของเราก็จะปรับตัวเข้าที่ และชีวิตของเราก็จะเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โหมดที่พร้อมจะเป็นแม่คน ชีวิตและเหตุการณ์ต่างๆก็จะยังคงดำเนินต่อไปขณะตั้งครรภ์ รวมไปถึงเรื่องราวที่ทำให้คุณเครียดก็เช่นกัน พยายามหาเพื่อนคุยถึงปัญหาของคุณเพื่อระบายความกังวลของคุณหรือกับพยาบาลของคุณก็ได้  การได้คุยแบบเปิดอกกับคนที่คุณไว้ใจได้ เพื่อให้เขาได้ช่วยคุณจัดการกับความเครียดของคุณ คือถ้าหากว่าคุณยังไม่ได้ฝากท้องก็สามารถไปปรึกษาหมอทั่วไปได้ เมื่อคุณรู้สึกดีขึ้น ไม่มีปัญหาใดให้ต้องๆเครียดเกี่ยวกับครรภ์ คุณอาจจะบอกเพื่อนๆหรือครอบครัวของคุณ ซึ่งจะทำให้คุณกลับมรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขกับการตั้งครรภ์อีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ต่างๆ อาจจะแตกต่างกันไปเวลาที่คุณเครียดเป็นเวลานาน หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณเครียดมากกว่าเดิมเกิดขึ้น สภาพแวดล้อมเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ่อนได้ เช่น การคลอดก่อนกำหนด และทารกมีน้ำหนักตัวน้อย ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้คุณเครียด ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีทีคุณต้องพูดถึงมัน หาวิธีจัดการกับมัน ถ้าหากว่าคุณปล่อยให้ตัวเองเครียดเป็นเวลาที่นานเกินไป มีความเป็นไปได้ที่ฮอร์โมนคอลติสซอลจะวิ่งไปสู่รก ซึ่งสามารถส่งผลกระทบถึงการพัฒนาของสมองของทารกได้ มีหลายกิจกรรมด้วยกันที่คุณสามารถทำได้ เพื่อให้ตัวเราเองได้ผ่อนคลายจากเรื่องราวต่างๆ เช่น การเล่นโยคะ ซึ่งสามารถช่วยคุณจัดการกับสถานการณ์ตึงเครียดได้ หรือปรึกษาพยาบาลที่คุณฝากท้องไว้เกี่ยวกับโยคะสำหรับผู้มีครรภ์มีใกล้บ้านของคุณ บทเรียนโยคะจะสอนเกี่ยวกับท่าโยคะต่างๆ ที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน  เมื่อเราได้เล่นโยคะเสร็จแล้วก็สามารถจบด้วยการนั่งสมาธิ ซึ่งสามารถทำให้ลดระดับฮอร์โมนคอลติสซอล หรือถ้าหากว่าคุณเป็นกังวลเกี่ยวกับหลายๆเรื่องอยู่ ทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นซักที แพทย์ของคุณสามารถจัดแจงให้คุณพบกับผู้ให้คำปรึกษา (Counselor)…

Read More

7 สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ไม่เคยรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเห็นขีดสีชมพูๆ โผล่ขึ้นมาบนที่ตรวจครรภ์ สงครามก็เริ่มขึ้นเมื่อนั้น ก่อนอื่นเลยคุณจะไม่สามารถนอนหลับได้สนิทอย่างเมื่อก่อนแน่นอนสำหรับ 2-3 เดือนแรกในการอุ้มท้อง หรือ คุณอาจจะรอไม่ไหวแล้วที่จะเห็นลูกไปโรงเรียน แค่นี้ยังไม่พอ ในช่วงที่เราเลี้ยงดูเขาอยู่ ศักยภาพของการเลี้ยงดูเด็กเล็กที่สำคัญยิ่งก็สามารถทำให้คุณรู้สึกเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา คุณอาจจะเคยคิดว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างในกรการเลี้ยงดูลูก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือให้ลูกฟังบ้าง หรือ Articles ต่างๆ แต่พูดกันตรงๆ เลยดีกว่านะคะ มันมีหลายๆอย่างอยู่ที่ไม่มีใครเคยบอกให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณคิดจะทำ ยังไง? ยิ่งผู้ที่ไม่มีบุตร พวกเขาจะเตรียมการและวางแผนไว้ทุกอย่างไว้อย่างดีก่อนพวกเขาจะมีลูกเสียอีก พ่อแม่จริงๆเท่านั้นที่จะรู้จักวิธีการเลี้ยงดูลูกอย่างแท้จริง และสามารถลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดจะทำก่อนจะถึงเวลาจริงๆ คุณอาจจะสัญญากับตัวเองไว้ว่า จะไม่ให้ลูกทำเสื้อสกปรกแน่นอนในเวลาเล่น แต่ความเป็นจริงแล้วเขาเอาหน้าจุ่มลงไปในถาดช็อกโกแลตก็ยังได้ คุณอาจจะอมยิ้มอยู่ที่ว่าลูกของคุณจะมีมารยาทที่ดี แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาส่งเสียโหยหวยโหวกเหวกโวยวายอยู่ในร้านขายของชำ เด็กๆ คือครูของคุณ นักจิตแพทย์เด็ก Joseph Shrand ได้แบ่งปันบทเรียนจากประสบการณ์ของเขาจากการเลี้ยงดูลูกของเขาโดยตรง “ลูกๆของผมจะมีวิธีการบอกให้ผมรู้เลยว่า ผมควรจะเปิดกว้างและให้โอกาสพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวตัวตนของเขาอย่างแท้จริง ไม่ใช้ตัวตนที่พ่อแม่อยากให้พวกเขาเป็น” Joseph Shrand กล่าวไว้ “พ่อแม่อาจจะคิดว่าเขาจำเป็นต้องสอนลูกๆ ให้เป็นผู้ที่เชื่อฟัง ปรับตัวได้และเป็นเด็กดี” แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เขารู้จักคุณค่าของความเป็นตัวเขาเอง ทุกๆอย่างก็จะไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้ บทเรียนที่ผมได้เรียนคือการให้ลูกๆ ได้เป็นครูที่ทำให้เราเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดที่เราสามารถจะเป็นได้ คุณจะไม่สามารถได้นอนหลับเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป จำเมื่อคืนที่คุณได้นอนหลับอย่างสนิทโดยไม่มีอะไรรบกวนกันได้หรือแปล่าค่ะ การใช้ชีวิตแบบจะไปไหนทำอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ จะนอนตอนไหน ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่ต้องตื่นมาตอนดึกๆ…

Read More

การใช้ยาในขณะตั้งครรภ์ปลอดภัยหรือไม่

เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งในขณะตั้งครรภ์ที่เราจะมีอาการต่างๆ ที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี และเราก็ไม่แน่ใจว่าเราสามารถไปรับใบสั่งยาจากแพท์แล้วไปซื้อยาเองได้หรือเปล่า ยาบางตัวสามารถรับประทานได้ไม่เป็นอันตราย แต่บางตัวก็ไม่สามารถแตะต้องได้เลย หรือบางครั้งผลกระทบจากยาอาจจะกระทบถึงทารกแต่เราไม่รู้ก็เป็นได้ เมื่อคุณไปปรึกษาแพทย์เพื่อชี้แจงอาการของคุณ ควรจะสอบถามแพทย์ให้แน่ใจเสียก่อนว่า ยาตัวไหนที่เราสามารถรับประทานได้ และตัวไหนบ้างที่เราควรไตร่ตรองให้ดี แพทย์ของคุณจะให้ข้อมูลความเสี่ยงและความปลอดภัยของยาแต่ละตัว รวมไปถึง การบอกให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทราบเกี่ยวกับการแพทย์ทางเลือก หรือประเภทอาหารเสริมที่ควรเคยใช้มาก่อน ถึงแม้ว่าจะมีบอกว่า ทำมาจากธรรมชาติ 100% ก็ตาม คุณควรได้รับข้อแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาใหม่เมื่อคุณตั้งครรภ์ แม้ต้องใช้แน่ใจด้วยว่าผู้ที่ให้คำแนะนำนั้นรู้ด้วยว่าคุณตั้งครรภ์            การใช้ยาแบบไหนบ้างที่ปลอดภัยในขณะตั้งครรภ์ วิตามินก่อนคลอด สำคัญและปลอดภัยที่จะใช้ในขณะตั้งครรภ์ แต่ควรถามแพทย์เกี่ยวกับความปลอดภัยของวิตามินอื่นๆ ถ้าหากว่าคุณอยากจะรับประทาน ยาสมุนไพร และอาหารเสริม แต่ยาสมุนไพรและอาหารเสริมส่วนใหญ่ไม่ได้พิสูจน์ว่าปลอดภัยต่อผู้ที่ตั้งครรภ์         *โดยทั่วไปแล้ว เราไม่ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ทั่วไปแล้วไปหาซื้อเองโดยเด็ดขาดในขณะตั้งครรภ์ถ้าไม่จำเป็น ข้างล่างนี้คือการใช้ยาและยาสมุนไพรที่ไม่เป็นอันตรายต่อครรภ์ เมื่อมีการได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อข้อมูลที่มากกว่านี้และความปลอดภัยของยาอื่นๆ ที่ไม่ได้มีอยู่ในลิสต์นี่         ยาที่ผู้มีครรภ์สามารถใช้ได้ อาการแพ้ (Allergy) Benadryl (diphenhydramine) Claritin *กรุณาปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก…

Read More

วิเคราะห์การนอนของลูก/ลูกนอนเยอะไปหรือน้อยไป

ที่จริงแล้วลูกของเราได้นอนหลับเพียงพอหรือเปล่านะ ? เป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เด็กๆ และการนอนไม่ใช้เรื่องคู่กัน แทบจะกลายเป็นเรื่องที่ปกติไปแล้วที่พ่อแม่ต้องตื่นขึ้นมาเดินกับลูกน้อยยามที่พวกเขานอนไม่หลับพ่อแม่เองก็ไม่ได้หลับ อาการคันเหงือก และปวดฉี่ คือสิ่งที่ทำให้ลูกต้องตื่นขึ้นมาตอนดึกๆ ดื่นๆ และพ่อแม่ก็ต้องตื่น มีงานวิจัยงานหนึ่งจัดทำโดย Dr. Frans Plooij ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการของเด็กและการสื่อสารระหว่างพ่อแม่และลูก พิสูจน์ได้ว่าทารกจะนอนหลับน้อยขณะที่พวกเขาอยู่ในช่วงที่กำลังเข้าสู่อายุครบ 20 เดือน เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับทารกทุกๆคนที่จะต้องประสบการกับปัญหาการนอนในช่วงอายุนี้ค่ะ  ทารกต้องนอนเป็นเวลาเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ อ้างอิงจาก WebMD article ช่วงเวลาแห่งการนอนหลับที่ลูกๆ ต้องการ ในแต่ละอายุและบุคลิกกาภาพ เราวิเคราะห์กันดีกว่าค่ะว่าลูกของเรานอนหลับเพียงพอกันหรือเปล่า: ทารกในท้อง ควรได้พักผ่อน 23-24 ชั่วโมง อายุ 1-4 สัปดาห์ ควรได้พักผ่อน 15-16 ชั่วโมง/วัน เด็กทารกไม่สามารถนอนเหมือนเด็กโตได้ ที่สามารถนอนเป็นกิจวัตรในตอนกลางวันและกลางคืน อายุ 1-4 เดือน ควรได้พักผ่อน 14-15 ชั่วโมง/วัน โดยเฉลี่ยแล้ว เด็กที่อายุ 6 อาทิตย์จะสามารถเริ่มพัฒนาการนอนหลับแบบเป็นกิจวัตรได้แล้ว เพราะพวกเขาสามารถแยกแยะได้แล้วว่าตอนไหนตอนกลางวันตอนไหนตอนกลางคืน อายุ 4-12 เดือน ควรได้พักผ่อน…

Read More

Sugar free – free จริงหรือ??เพชฌฆาตร้ายของน้ำตาลเทียม (สารแอสพาแทม Aspartame)

  เพชฌฆาตร้าย Aspartame              การมีสุขภาพที่ดีสมัยนี้ทำยากขึ้นทุกวันเลยนะคะ เดินไปไหนมาไหนก็พบเห็นแต่อาหารที่ทำร้ายสุขภาพของเรามากขึ้น มากขึ้น ทุกวัน หลายๆคน หลงผิดกับไปกับการโฆษณาชวนเชื่อ คิดว่าอาหารที่เรากินอยู่นั้น ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายเราเลย นอกเสียจากความเอร็ดอร่อย และอิ่มท้อง ต้องคิดใหม่แล้วละค่ะ ทุกอย่างที่เรารับประทานล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราโดยตรง เป็นเรื่องจริงค่ะที่ว่าน้ำตาลไม่ดีต่อสุขภาพแต่น้ำตาลเทียมร้ายแรงกว่าค่ะ น้ำตาลเทียมที่ว่าให้ความหวานน้อย ไร้แคลอรี่ อยากลดความอ้วน กินได้..ไม่อ้วน ไม่มีแคลอรี่ แน่ใจหรอว่าความคิดนั้นถูกต้องแล้ว เลิกเลยค่ะ ไม่เอาแล้วนะคะ การกินแบบเอาแต่ความอร่อย สุขภาพดีเราต้องสร้างเองค่ะ        Aspartame (สารแอสพาแทม)  คือสารเคมีที่ให้ความหวาน หรือที่เราเรียกกันว่า น้ำตาลเทียมเป็นตัวอันตรายที่ซ่อนอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิด สาร Aspartame สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตเราได้ ฉะนั้นการได้ขับล้างสารเคมีที่เป็นอันตรายนี้ (Aspartame) ออกไปจากร่างกายของเราคือเป็นวิธีแก้ที่ดีที่สุด ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเทียมนั้นเอง สารแอสพาแทม คือน้ำตาลเทียม ที่ใช้ในอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณแคลอรี ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของสารAspartame เพราะเชื่อว่าสามารถมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักเพราะมีแคลอรีต่ำ เหตุผลที่ สารแอสพาแทมสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรงนั้นคือ มันสามารถละลายได้ และก็สามารถกระจายไปทั่วร่างกายของเราและสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อของเราได้อีกเช่นกัน…

Read More