การเปรียบเทียบสมรรถนะ : ทำไมลูกของฉันไม่เหมือนกับลูกของคุณ
เราทุกคนนั้นชอบที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เราคิดหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นเมื่อพูดถึงลูกของเราเอง เรามักจะมีการเปรียบเทียบมากขึ้นกว่าตัวเราเองไปอีก พ่อแม่บางคนนั้นอยากที่จะให้ลูกของตัวเองนั้นดีที่สุดในห้องเรียน บางคนก็แค่อยากให้ลูกเรียนทันเพื่อนๆ และบางคนก็กลัวว่าลูกของตัวเองนั้นจะเรียนไม่ทันเพื่อนหรือมีพัฒนาการที่ช้ากว่าคนอื่นๆในห้องเรียน ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อแม่ในกลุ่มไหนก็ตาม การที่เอาลูกของตัวเองไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นนั้นมีแต่จะส่งผลให้คุณเกิดความเครียดและความวิตกกังวลมากขึ้น
เด็กส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่าใครฉลาดที่สุดในห้อง แต่สิ่งที่สำคัญก็คือการที่ทำให้เด็กรู้ว่าความฉลาดนอกเหนือจากตำราเรียนนั้นสำคัญกว่า เด็กทุกคนมีระดับของพัฒนาการที่แตกต่างกันไป ถึงแม้ว่าจะมีเด็กคนนึงที่มีพัฒนาการช้าแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะเป็นแบบนั้นตลอดไป
เด็กสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกและความกังวลของคุณ ซึ่งนั่นอาจทำให้เค้ากลายเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยก็ได้ การที่คุณนั้นมีความกังวลมันอาจจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกคุณเองด้วยเช่นกัน จริงๆแล้วหนทางที่ดีที่สุดก็คือคุณควรจะลดความกังวลลงและหันมาสนใจเกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยพัฒนาลูกของคุณให้ดีขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
การผลักดันให้เด็กเป็นคนที่เก่งที่สุดหรือแม้แต่การผลักดันเค้าให้ทันเด็กคนอื่นๆนั้นเป็นการกดดันเค้ามากจนเกินไป ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่หาวิธีที่จะช่วยให้เค้าพัฒนาด้วยตนเองโดยที่ไม่เอาไปเปรียบเทียบกับมาตรฐานของเด็กคนอื่นๆ ตั้งเป้าหมายตามความเป็นจริงของลูกของคุณ ให้กำลังใจเขาแต่ก็อย่ากลัวที่จะติเตียนเขาอย่างสร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน
คำแนะนำนี้อาจจะทำให้คุณคิดว่าคุณสามารถวางใจและผ่อนคลายไปได้ แต่ว่านี่ไม่เหมือนกับการเปรียบเทียบสมรรถนะกับเด็กคนอื่นๆ เด็กๆควรจะถูกผลักดันให้เป็นเด็กที่สนุกและมีความน่ารักน่าเอ็นดู พวกเขาควรที่จะได้รับทุกๆโอกาสที่จะได้สร้างสรรค์และเสาะแสวงหา อีกทั้งยังควรที่จะได้รับของขวัญตอบแทนในทุกๆครั้งที่เขามีความสนใจอยากรู้อยากเห็นสิ่งต่างๆ เด็กๆจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากโรงเรียนและมันเป็นอะไรที่สำคัญที่พ่อแม่ควรจะหาหนทางที่ถูกต้องสำหรับลูกๆ