พัฒนาการของทารกอายุ 4 เดือน ( 4 month old’s development)
ลูกจะมีพัฒนาการในเรื่องใดบ้างในเดือนที่ 4 ?
ลูกน้อยของคุณเริ่มที่จะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งรอบๆตัวเขา พ่อแม่ควรให้โอกาสเขาได้รู้จักสิ่งต่างๆ ด้วยการจับ สัมผัส สิ่งของต่างๆ เขาเริ่มที่จะถูกรบกวนได้ง่ายโดยสิ่งต่างรอบๆ ตัวเขา ฉะนั้นการป้อนข้าวป้อนน้ำเริ่มจะเป็นสิ่งที่ยากขึ้นแล้วหล่ะค่ะ
เมื่อพัฒนาการทางด้านการมองของเขาได้พัฒนาแล้ว เขาจึงสามารถรู้จักการแยกแยะของเงาและสีต่างๆ ได้ เช่น สีแดงและสีส้ม
แต่ทำไมลูกถึงเริ่มรับประทานอาหารน้อยลง ?
ผ่านมาสองถึงสามเดือนแล้ว กระเพาะอาหารของเด็กก็เริ่มจะใหญ่ขึ้น นั้นหมายความว่าเขาสามารถดื่มนมได้เยอะในหนึ่งมื้อ คุณไม่จำเป็นต้องป้อนให้เขาบ่อยนัก เขาอาจจะดื่มนมแค่ 4 -5 ครั้งต่อวัน แต่น้ำหนักตัวของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คุณอาจจะสังเกตได้ถึงการสนอกสนใจของเด็กต่อสิ่งเคลื่อนไหวรอบๆตัวเขา จึงทำให้ยากต่อการป้อนอาหารให้เขา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่เห็นเขาตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ รอบๆตัว แต่การให้นมลูก (นมแม่หรือจากขวดนมก็จะกลายเป็นเรื่องยาก) ถ้าหากว่าลูกของคุณถูกรอบกวนได้ง่ายและบ่อยเกินไป อาจจะหาที่เงียบๆ ให้เขาพักสมาธิและดื่มนมก็ดีค่ะ
เมื่อไหร่ที่ลูกพร้อมที่จะรับประทานอาหารแข็งได้ ?
คุณอยากจะให้ลูกได้รับประทานอาหารขบเขี้ยวแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ช้าก่อน อย่างดีที่สุดสำหรับเดือนนี้คือการป้อนนมแม่ หรือ นมผงก่อน จนกระทั้งเขาย่างเข้าสู่เดือนที่ 6 เมื่อถึงเวลานั้น ลูกของคุณจะได้รับโภชนาที่เขาต้องการจากนมแม่และนมผงหมดแล้ว
จะปลอดภัยกว่าถ้าหากว่าคุณรอให้ลูกอายุครบ 6 เดือนก่อนถึงจะให้เขาได้ลองเคี้ยวอาหารแข็ง เพราะอะไร?
- เขาจะไปหยิบจับเชื้อโรคจากอาหาร เพราะระบบย่อยอาหารของเขายังไม่แข็งแรงพอ
- มีการตอบสนองที่ไม่ดีต่ออาหาร เพราะระบบภายในของเขายังไม่แข็งแรงพอ
การรอให้เขาได้อายุครบ 6 เดือน หมายความว่าคุณสามารถแน่ใจได้ว่าลูกของคุณมีร่างกายที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะกลืนและระบบย่อยอาหารแข็งแรงพอที่จะบดอาหารแล้ว เมื่อถึงเดือนที่ 6 เขาจะสามารถเคี้ยว เคลื่อนย้ายอาหารไปได้ทั่วปาก และนั้นจะปลอดภัยในการกินของเขา
ถ้าหากว่าลูกของคุณดูเหมือนหิวมาก สามารถให้เขาได้ดื่มนมในปริมาณที่เยอะกว่าปกติ ถ้าหากว่าลูกของคุณดื่มนมผง คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชนิดของนมมาเป็นนมผงสำหรับเด็กโตแต่อย่างใด ความเชื่อที่เปลี่ยนนมไปตามการเจริญเติบโตของทารกไม่ใช่ไอเดียที่ดีสำหรับทารกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน
ถ้าหากคุณอยากให้อาหารแข็งต่อลูกก่อนอายุครบ 6 เดือน ควรจะคุยกับผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะมีอาหารบางชนิดที่คุณไม่ควรให้ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนรับประทาน
ควรสนับสนุนลูกอย่างไรให้เขา active ?
คุณสามารถวางลูกในท่านอนคว่ำและดูว่าเขาจะผลักตัวเองขึ้นได้หรือเปล่าและเพื่อให้เขาได้ออกกำลังแขนและขาด้วย เขาอาจะยกศีรษะและไหล่ของเขาสูงขึ้น และใช้แขนของเขาดันตัวเองขึ้นมา การให้ลูกได้ทำออกกำลังกายแบบนี้สามารถช่วยให้เขาได้ยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ ลูกของคุณอาจจะร้องไห้สำหรับครั้งแรกที่คุณวางตัวเขาในท่านอนคว่ำ เพราะเขายังไม่ชินกับท่านอนนี้ แต่เมื่อคุณให้เขาได้นอนท่านี้บ่อยขึ้น เขาก็จะชินเอง
มีเกมอะไรที่พ่อแม่จะเล่นกับลูกในวัยนี้บ้าง ?
ลูกของคุณเริ่มที่จะสนุกสนานไปกับสิ่งต่างๆ รอบๆตัวเขา มาความกล้าหาญที่จะค้นคว้าและเล่นกับสิ่งต่างๆมากขึ้น การให้เขาได้เล่นกับผ้าขนหนูที่สะอาดๆ ก็ดี ได้จับและขย้ำเล่น
การให้เขาได้เล่นของเล่นใหม่ๆ เช่น cradle gym ก็เป็นตัวเลือกที่ดี จะทำให้เขาสนุกสนานไปกับมันเมื่อเจอว่ามันเคลื่อนไหวเมื่อเขาดึงและกดกริ่งและเห็นว่ามันส่งเสียงและเคลื่อนไหว
แต่เมื่อเขาเริ่มจะจับของเล่นเองได้แล้ว สิ่งแรกที่เขาจะทำคือ มองดูรอบๆ และก็เอาเข้าปาก แต่จากการทำอย่างนั้น ของเล่นอาจจะตีหน้าของเขาเอาได้ จากนั้นเขาจะทำหน้าเหมือนว่า “แม่ทำอย่างนี้กับหนูทำไม”
คุณอาจจะสังเกตได้ถึงการว่าลูกเริ่มมีอาการคันเหงือก นั้นคือฟันของเขาเริ่มจะงอกแล้ว แต่ยังไม่โผล่ออกมากนั้นเองหล่ะค่ะ
ช่วยลูกเรียนรู้และเข้าใจคำได้อย่างไร?
ลูกของคุณเริ่มจะให้ความสนใจกับใบหน้า เสียง ที่คุณ และเขาก็จะตอบสนองต่อเสียงที่เปลี่ยนไปของคุณ และถ้าหากว่าคุณทำเสียงที่น่าขัน เขาก็จะหัวเราะ
สิ่งแรกที่คุณควรพัฒนาคือทักษะการสนทนา คุณอาจจะได้ยินเขาพยายามจะพูดว่า ma-ma or da-da เขายังไม่สามารถเชื่อมเสียงกับคำที่ใช้เรียกพ่อแม่
เขาอาจจะเลียนแบบเสียงที่ได้ยินจากคุณ ถ้าคุณพูดว่า boo เขาก็อาจจะพูดตาม
พัฒนาการการมองของลูกเป็นอย่างไรบ้าง ?
พัฒนาการการมองเห็นของลูกกำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และในเดือนนี้ เขาสามารถแยกแยกสีแดงและสีส้มได้แล้ว ลูกของคุณเริ่มจะแยกแยะแม่สีได้บ้างแล้ว
พัฒนาการของลูกเป็นไปอย่างปกติหรือไม่ ?
ศักยภาพของเด็กๆ แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เคยเกิดขึ้นกับเขา วิธีสังเกตความสามรถของทารกวัย 1 ขวบมีหลายวิธีที่คุณสามารถทำความเข้าใจกัน
*ถ้าหากว่าคุณมีการคลอดก่อนกำหนด (ก่อนสัปดาห์ที่ 37) บางครั้งทารกอาจจะต้องการเวลามากกว่าที่จะเรียนรู้และสามารถทำอะไรได้เหมือนทารกคนอื่นๆ แพทย์จึงแนะนำวิธีการเช็ค
– อายุตามเกณฑ์ ซึ่งนับจากวันเกิดของทารก
– อายุจริง คือ นับจากวันที่กำหนดคลอด
คุณควรจะคำนวณพัฒนาการของทารกที่คลอดก่อนกำหนดโดยการใช้อายุตามเกณฑ์ ไม่ใช้อายุจริงของทารกที่นับจากวันทำคลอด ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกที่คลอดก่อนกำหนดจากเวลาที่ควรคลอดและสามารถประเมินความสามารถเขาได้
ถ้าคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถปรึกษาแพทย์ที่ทำคลอดของคุณได้ค่ะ
ติดตาม: พัฒนาการของทารกอายุ 5 เดือน (5 months’ child development)
ย้อนกลับไปดู: พัฒนาการของทารกอายุ 3 เดือน (3 month’s child development)
Visit us: www.beyc.co.th