สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการคลอดบุตรด้วยการผ่าท้อง (C-Section)

การคลอดบุตรด้วยการผ่าท้อง (Cesarean Section)  เรามาทำความรู้จักกับการคลอดบุตรด้วยการผ่าท้องกันดีกว่าว่ามันคืออะไรและเป็นอย่างไร (?) เมื่อทารกอยู่ในวัยเจริญเติบโตเต็มที่และพร้อมที่จะผ่าออกมาได้จากท้องน้อยและมดลูกของแม่ การทำคลอดแบบการผ่าท้องสามารถมีการเตรียมการล่วงหน้าได้ หรือ บางครั้งอาจจะมีการผ่าอย่างกะทันหันอันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ภาวะแทรกซ้อนอย่างไรที่จะนำไปสู่การผ่าคลอดอย่างกะทันหัน (?) ภาวะแทรกซ้อนที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการผ่าคลอดอย่างกะทันหัน มีอยู่ไม่กี่สาเหตุค่ะ เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง การเต้นของหัวใจของทารกมีการเปลี่ยนแปลง สายสะดือย่น (สายสะดือเลื่อนผ่านสู่ปากมดลูกและด้วยเหตุนี้ทำให้ทารกขาดออกซิเจน) รกลอกก่อนกำหนด (รกแยกจากผนังมดลูกและด้วยเหตุนี้ทำให้ทารกขาดออกซิเจน) หยุดหยั่งการเกิดโรคเริม ( Herpes ) (ทั้งในระยะการช่วงทำคลอดหรือก่อนหน้านี้) ปากมดลูกไม่สามารถขยาย เหตุผลที่คุณต้องมีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำคลอดด้วยการผ่าตัด คุณอาจจะต้องมีการเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดด้วยเหตุผลดังนี้ : คุณเคยมีการทำคลอดด้วยการผ่าท้องมาก่อนความเสี่ยงสูงที่จะประสบกับการการแยกตัวของตัวมดสูงจึงสามารถส่งผลให้เกิดซ้ำสองเลย คุณเคยมีการผ่าตัดบริเวณผนังมดลูกมาก่อน คุณมีบุตรมามากกว่าหนึ่งคนแล้ว คุณกำลังตั้งครรภ์ทารกที่มีน้ำหนักตัวสูง ทารกของคุณมีความผิดปกติ มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้มีการคลอดเองลำบาก มีรกในมดลูกในปริมาณที่น้อย ทารกมีอยู่ในก้น (ก้นโพล่หรือด้านข้างของทารกโพล่) เกิดอะไรขึ้นกับเราบ้างขณะผ่าท้องทำคลอด ? แพทย์จะทำรอยผ่าตัดเป็นแนวนอนผ่านสะดือ เหนือหัวเหน่านิดหน่อย จากนั้นก็ทำการผ่าตัดตามรอยเส้นนั้นจนกระทั่งแพทย์ผ่าไปถึงผนังมดลูก จากนั้นกล้ามหน้าท้องของคุณจะถูกแยกออกจากกัน การผ่าตัดขั้นสุดท้าย (การผ่าทแยงเล็กน้อย) เผื่อทำการเปิดมดลูก และนำทารกออกจากท้อง หลังจากนั้นทารกก็จะถูกนำไปทำความสะอาดรกจากทารกออก หลังจากนั้นแพทย์ก็ทำการเย็บหน้าท้องกลับเข้าเหมือนเดิม จากนั้นลูกน้อยของคุณก็จะถูกนำไปพบกุมารแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็ค ขณะที่การเย็บหน้าท้อจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ไหมที่ใช้ในการเย็บจะเป็นไหมละลายและข้างนอกจะใช้ไหมปกติ และข้างนอกอาจจะใช้ด้ายปกติซึ่งสามารถทำการเอาออกได้ประมาณ…

Read More

สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนด

การคลอดก่อนกำหนดคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร การคลอดก่อนกำหนดคืออะไร ? การคลอดก่อนกำหนด (Preterm หรือ Premature Labour) เกิดขึ้นจากการขดตัวของมดลูกก่อนที่เขาจะย่างเข้าสู่อาทิตย์ที่ 37 แต่การหดตัวของมดลูกไม่จำเป็นจะต้องหมายความว่าจะมีการคลอดก่อนกำหนดเสมอไป เมื่อเราได้ทำการตรวจครรภ์และหมดให้คำแนะนำว่าอาจจะต้องมีการคลอดก่อนกำหนด นั้นมีผลมาจากความผิดปกติของทารก ในกรณีนี้การทำคลอดก่อนกำหนดนี้อาจจะต้องมีการดึงทารกหรือไม่ก็การผ่าท้องทำคลอด การแท้ง สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกันถ้าหากมีน้ำหลั่งออกมามากผิดปกติหรือปากมดลูกเปิดกว้างโดยไม่ได้ผ่านการทำคลอดอย่างถูกวิธี  แล้วลูกน้อยจะเป็นอย่างไรบ้าง หากมีการคลอดก่อนกำหนด ? การประสบกับอันตรายถึงชีวิตมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูงกับทารกที่คลอดก่อนกำหนด ยิ่งมีการคลอดก่อนกำหนดเร็วเท่าไหร่เด็กก็จะเสี่ยงประสบกับปัญหาสุขภาพมากเท่านั้น ปัญหาด้านสุขภาพประกอบไปด้วย เลือดคั่งในสมอง (Brain Haemorrhage), ระบบภายใน (Organ), ระบบประสาท (Nervous System) รวมไปถึงปัญหาการหายใจของทารกด้วย ทารกที่ผ่านการคลอดก่อนกำหนดมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายและประสบกับความยากลำบากในการเจริญเติบโต ส่วนทารกที่สามารถมีชีวิตรอดมักจะประสบกับปัญหาสุขภาพในระยะยาว ส่วนมากทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะคลอดในช่วงอาทิตย์ที่ 34 ถึง 37 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้สามารถที่ยืดเวลาการทำคลอดได้ประมาณสองถึงสามวัน ก่อนจะจะครบกำหนดอาทิตย์ที่ 34 และแพทย์สามารถให้ยาคอร์ติโคสติรอยด์ (Corticosteroids) ที่ช่วยลดบวมของปอดหรือระบบหายใจได้ อาจจะสามารถช่วยเหลือให้ทารกมีชีวิตรอดได้ มีสาเหตุอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด? มีอยู่หลายสาเหตุที่ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดแต่อาจจะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ สาเหตุที่ทำให้มีการคลอดก่อนกำหนดมีดังนี้ค่ะ มีการผ่าตัดหน้าท้องขณะตั้งครรภ์ มดลูกหรือปากมดลูกผิดปกติ ปากมดลูกเปิดกว้างผิดปกติ การติดเชื้อ อุบัติเหตุหรือหกล้มที่ส่งผลต่อบริเวณหน้าท้อง สถิติของผู้หญิงที่มีแนวโน้วว่าจะมีการคลอดก่อนกำหนดมีดังนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ…

Read More

ทานตะวันงอกผักออร์แกนิคที่ใครๆก็ปลูกได้

เมล็ดทานตะวันงอกเป็นผักที่มาจากการเพาะเมล็ดซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มของคนรักสุขภาพ อีกทั้งมีคุณประโยชน์มากมายนั่นก็คือเมล็ดทานตะวันงอกมีโปรตีนที่สูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินเอและวิตามินอีสูง บำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความชรา มีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ซึ่งช่วยบำรุงเซลล์สมองป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์และธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ในเมล็ดทานตะวัน 100 กรัม จะให้พลังงานแก่ร่างกาย 500 กิโลแคลอรี โปรตีน 23 กรัม ไขมัน 50 กรัม แคลเซียม 14.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 19 กรัม สังกะสี 5 มิลลิกรัม และโพรแทสเซียม 690 มิลลิกรัม เอาละคะเราพอรู้ประโยชน์ของเจ้าเมล็ดทานตะวันกันพอคร่าวๆ แล้วเรามาเริ่มต้นการเพาะกันดีกว่าซึ่งวิธีเพาะก็ง่ายแสนง่ายดังนี้เลย … อุปกรณ์ – เมล็ดทานตะวันสีดำ (black oil sunflower seeds) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารนกหรืออาหารสัตว์ แต่เลือกเมล็ดพันธุ์สีดำ เพราะเมล็ดสีลายๆจะมีอัตราการงอกน้อย –…

Read More

น้ำตาลฟรุกโตส ความหวานที่โหดร้าย (Fructose)

ถ้าหากน้ำตาลฟรุกโตสไม่ดี แล้วฉันไม่ต้องให้ลูกๆดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนรึไง ? คำตอบ – คือ ไม่ใช่ อย่างแน่นอนค่ะ แล้วเราจะทำต้องทำอย่างไรล่ะที่จะไม่ทำร้ายตัวเองและลูกน้อยของเรา หลายๆ คนคงรู้กันว่าที่โรงเรียนของเรา (British Early Years Centre) ให้ความสำคัญเกี่ยวเรื่องอาหารการกินมาก การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในแต่ละมื้อของเด็กๆ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ Jamie Oliver เชฟทำอาหารชื่อดังได้ออกมาเชื้อเชิญให้ผู้คนใส่ใจในเรื่องอาหารการกินของเด็กๆ เราทุกคนต่างก็รู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพกันบ้าง แต่สำหรับบล็อกนี้เราจะชี้ให้เห็นถึง “ปัญหาที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป” เรามาทำความรู้จักกับน้ำตาลฟรุกโตสกันหน่อยดีกว่า น้ำตาลฟรุกโตสมีอยู่ในอาหารเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นของว่าง หรือ เครื่องดื่ม ถ้าหากคุณยังคิดไม่ออกว่ามีอะไรบ้างก็ให้ลองย้ำเข้าไปดูใน 7-11 บ้านเรานั้นแหละค่ะ แทบจะทุกอย่างในเซเว่น ล้วนมีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตสทั้งนั้น แต่ก่อนฉันเคยชอบดื่มชาเขียว โออิชิ (Oishi) มาก แต่เมื่อฉันรู้ว่ามันมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่เยอะขนาดนั้นฉันก็เลยเปลี่ยนมาดื่มฟูจิ (Fuji) แทน กว่าฉันจะชินกับรสชาติของฟูจิ ก็ใช้เวลาพอสมควร เพราะตอนนั้นฉันติดความหวานของโออิชิมาก น้ำตาลก็เปรียบเสมือนยาเสพติด เมื่อเราได้รับความหวานจากน้ำตาลในปริมาณที่เยอะและบ่อยครั้ง สมองของเราก็จะเริ่มชินกับความหวานและขาดมันไม่ได้ เมื่อเรากินของหวานเราก็จะรู้สึกมีพลัง นั้นคือพฤติกรรมการเสพติดน้ำตาล เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับน้ำตาลที่สามารถทำร้ายคุณได้อย่างคาดไม่ถึง.. อย่างไรก็ตามนักออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทใหญ่ๆต่างก็ป็นคนที่เฉลียวฉลาดเหลือเกิน และอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายที่แข็งแรง บริษัทต่างๆเหล่านั้นเลยเลยฉวยโอกาสตรงนั้นในเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและทำให้มันดูน่าเชื่อถือและให้ผู้คนคิดว่าแท้จริงแล้วน้ำตาลดีต่อสุขภาพของเรา แต่ความเป็นจริงแล้ว…

Read More

คุณพี่เลี้ยงเจ้าปัญหา

ครอบครัวส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯมักจะมีพี่เลี้ยงอยู่แล้วและพวกเขาก็เป็นพี่เลี้ยงที่น่าทึ่งกันด้วย  แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพูดถึงการเลี้ยงดูลูกของคุณว่าเขาจะปฏิบัติตามมาตรฐานและกิจวัตรเดียวกันกับที่คุณเลี้ยงลูกของคุณเอง  หากพี่เลี้ยงไม่ทำเช่นนั้นมันจะมีผลเสียต่อพฤติกรรมของลูกคุณอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้ การป้อนข้าว  –  คุณต้องอย่าลืมเช็คด้วยว่าพี่เลี้ยงหรือคนดูแลลูกของคุณมีวิธีการป้อนอาหารลูกของคุณแบบเดียวกันกับที่คุณทำ  และคุณต้องดูด้วยว่าพี่เลี้ยงไม่ได้ให้ขนมกับลูกของคุณเกินกว่าปกติที่คุณให้  คุยกับพี่เลี้ยงว่าอะไรที่คุณอนุญาตและอะไรที่คุณไม่อนุญาตบ้าง การถูกตามใจจนเคยตัว  –  เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างเป็นปกติที่พี่เลี้ยงมักจะคิดว่าหน้าที่ของพวกเขาคือจะต้องดูแลลูกของคุณในทุกๆด้าน  การที่ถูกตามใจแบบนี้จะทำให้ลูกของคุณนั้นทำอะไรเองไม่เป็นเพราะมีพี่เลี้ยงที่ค่อยทำให้หมดซะทุกอย่างแล้ว  คุณต้องให้พี่เลี้ยงนั้นสอนให้ลูกของคุณรู้จักทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง  บ่อยครั้งที่ผมเห็นพี่เลี้ยงบางคนยังตักข้าวป้อนเข้าปากเด็กอยู่เลย การช่วยทำการบ้าน  –  แน่นอนว่ามันสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ตามที่ดูแลลูกของคุณจะต้องสนับสนุนและช่วยลูกคุณทำการบ้าน  แต่อย่าลืมว่าพี่เลี้ยงจะต้องเข้าใจด้วยว่าการ ”ช่วย” ทำการบ้านนั้นไม่ใช่การลงมือทำการบ้านให้เด็กด้วยตัวเอง  การเรียนรู้จะไม่เกิดความสมบูรณ์แค่เพียงเพราะรู้ถึงความเป็นจริง  แต่ไม่มีการหาหนทางสำหรับการแก้ปัญหาต่างๆด้วยตัวเอง  มันเป็นสิ่งที่สำคัญด้วยว่าระบบการสอนลูกนั้นควรเหมือนกับตอนที่เค้าอยู่ที่โรงเรียน  ตัวอย่างเช่น  หากโรงเรียนมีการใช้โฟนิกส์ อย่าสอนเอบีซี  และหากโรงเรียนมีการสอนผ่านการแบ่งกลุ่ม  อย่าใช้การรวมกลุ่ม ความผิดพลาดพื้นฐานเหล่านี้สามารถมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก, ร่างกาย และการเรียนรู้ของเด็กๆด้วย  และพวกเขาจะนำพาตัวเองเข้าไปสู่เส้นทางที่ลำบากเกินกว่าที่จะหันกลับมาได้  หากคุณรู้สึกว่าพี่เลี้ยงของลูกคุณมีพฤติกรรมใดๆในสิ่งเหล่านี้อยู่  มันอาจจะเป็นเวลาที่ดีที่คุณควรจะต้องพูดคุยกับเค้าแล้วหล่ะ

Read More

ทฤษฎีพหุปัญญา คืออะไร ?

ทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligence Theory) แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดเป็นแน่!! “ทฤษฎีพหุปัญญา” (Multiple Intelligence Theory หรือ MI) เป็นทฤษฎีของ ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner, 1983) เสนอแนวคิดว่า สติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านที่มีความสำคัญไม่เท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหน ตัวอย่างเช่น ถ้าเด็กคนหนึ่งไม่มีความสามารถในการคิดคำนวณเลย เขาก็สามารถเก่งในวิชาอื่นก็ได้ อย่างเช่น ศิลปะ เป็นต้น ทฤษฎีของการ์ดเนอร์ไม่ได้บอกว่าเด็กคนนั้นจะเก่งแต่วิชานั้นวิชาเดียว แต่อาจจะมีความสามารถในหลายๆ ด้าน อย่างน้อยเขาก็จะมีหนึ่งหรือสองคุณสมบัติที่เด่นชัด มีโรงเรียนในกรุงเทพหลายแห่งมากที่ได้ใช้ “ทฤษฏีพหุปัญญา” ในการโฆษณาแผนการเรียนการสอนของเขา แต่การสอนจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวไว้ในโฆษณาทั้งหมดหรอก เรามาดูการวิเคราะห์ข้างล่างนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ทฤษฎีพหุปัญญา(MI) ใช่ แนวคิดใหม่หรือเปล่า ? มีการใช้ “ทฤษฎีพหุปัญญา”ประกอบแผนการเรียนการสอนมาเป็นเวลานานแล้ว รวมถึงโรงเรียนแห่งในประเทศอังกฤษได้มีการสอนตามแนวคิดนี้กันมาก่อน ศาสตราจารย์การ์ดเนอร์เองก็ได้พูดถึงความเข้าใจของเขากับการใช้ทฤษฎีนี้ รวมถึงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในเรื่องนี้ก็ไม่มากนัก(Guardian, 1995). ส่วน Klein, (1995) ได้กล่าวถึง กฎเกณฑ์ของทฤษฎีนี้ในเชิงลึกว่า “ทฤษฎีพหุปัญญานี้ได้ขยายกฎเกณฑ์กี่ยวกับทฤษฎีความรู้ทั่วไป: มันจะกว้างเกินไปที่เราจะใช้ทฤษฎีนี้ในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอน ถึงแม้ว่าทฤษฎีนี้สามารถแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักเรียนก็ตาม” และกล่าวต่อว่า “การวิจัยในเรื่องของความรู้และกลยุทธ์ที่นักเรียนแต่ละคนสามารถที่จะเรียนรู้จากการทำกิจกรรมนั้นๆ และวิธีการที่สอนอย่างนั้น…

Read More

ผัดผงกะหรี่กะหล่ำดอกกับมันฝรั่ง

ถ้าคุณเป็นคนนึงที่กำลังทานมังสวิรัติเมนูนี้เหมาะมาก หรือกำลังจะลองทานเชิญลองเลยคะ รับรองเมนูนี้อร่อยไม่แพ้กับเมนูอื่นแน่นอน แต่ก่อนอื่นมาเริ่มเตรียมส่วนผสมต่างๆ กันเลยคะ วัตถุดิบและส่วนผสม – น้ำมันพืช  3  ช้อนโต๊ะ – หอมหัวใหญ่สไลด์  2 หัว – กระเทียมที่หั่นแล้ว 3-4 กลีบ – ขิง (ปลอกเปลือกและหั่นเป็นแว่นๆ) ประมาณ 6 ชิ้น – เมล็ดมัสตาร์ด  1 ช้อนชา – เมล็ดยี่หร่า  1 ช้อนชา – มะเขือเทศ  3 ผล – ใบหอมแขก  6 ใบ – ลูกผักชีบ่น   1 ช้อนชา – ผงยี่หร่า  1 ช้อนชา – ผงขมิ้นชัน  1 ช้อนชา – พริกคาเยน  ½…

Read More

สุขภาพที่ดีคุณเป็นคนเลือกเอง / 5 เมนูที่ดีต่อสุขภาพ

คุณภาพดีไม่มีขายนะคะ คุณเลือกเองได้   กราโนล่า / ซีเรียล (Granola/Cereal Bars) ใช่ค่ะ! ทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีต่อ ‘สุขภาพ’ และ ‘เต็มไปด้วยโภชนาการที่ดี’ ไม่ว่าเราจะนำมาทำเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง คุณสามารถหาส่วนผสมที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์เหล่านี้ได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป เมนูง่ายๆ เพื่อสุขภาพของเรา : โฮมเมดซีเรียลบาร์ (Homemade Cereal Bars) เลือกสรรธัญพืชหลากหลายชนิด อย่างเช่น เมล็ดพืช ผลไม้แห้ง โกโก้สด น้ำผึ่งและเนยถั่วแท้ จากนั้นก็ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็เทลงลงไปในถาด ที่พร้อมจะนำเข้าเตาอบ แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ ช่างง่ายอะไรอย่างนี้ ส่วนผสมสำหรับโฮมเมดซีเรียลบาร์ 10 ชิ้น มีดังนี้ค่ะ ข้าวโอ๊ต 5 ถ้วย ถั่ว 1 ถ้วย (สามารถผสมถั่วหลายๆ ชนิดเข้าด้วยกัน อัลมอนด์บดก็อร่อยนะคะ) ลูกเกดหรือรามาดานสัก 2 ถ้วย ผงโกโก้แท้ ¾ ถ้วย เนยถั่วแท้ไม่หวาน ¼ (ถ้าหากคุณสามารถหาได้…

Read More

เติมความสดชื่นกับน้ำหมักผลไม้เพื่อสุขภาพ (Infused water)

ร้อนๆแบบนี้มาเติมความสดชื่นด้วย “Infused water” หรือจะเรียกว่าน้ำหมักเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือจากการนำเอาน้ำเปล่ามาหมักกับผัก ผลไม้ พืชสมุนไพร และเครื่องเทศต่างๆตามความชอบ เป็นเครื่องดื่มสำหรับสุขภาพที่ทำได้ง่ายและพร้อมที่จะให้เราพกพาไปได้ทุกที่อีกอย่างเรายังพลิกแพลงสูตรได้มากมายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความเป็นไปได้ด้วยนะคะ อย่าผสมกันจนไม่สามารถทานได้นะเออ เรามาดูกันดีกว่าไอ้เจ้าน้ำหมักนี้มีวิธีทำกันยังไง ส่วนผสมของน้ำหมัก – น้ำ / น้ำแร่ / น้ำแร่ชนิดมีฟอง หรือ โซดา – ผลไม้ เช่น เลมอน มะนาว เกรปฟรุต ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แบล๊คเบอร์รี่ เชอร์รี่ มะม่วง สับปะรด ทับทิม กีวี แตงโม แคนตาลูป แอปเปิล องุ่น เป็นต้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้หากคิดว่าสามารถทำได้ ลงมือเลยคะ ^^ – ผักและเครื่องเทศ เช่น ตะไคร้ สาระแหน่ ผักชี ลาเวนเดอร์ อบเชย ขิง แครอท เป็นต้น – อย่าลืมเตรียมกระบอกหรือขวดน้ำที่มีฝาปิดด้วยนะด้วยนะคะ…

Read More

โรงเรียนเล็กๆ กับผลลัพธ์อันน่าทึ่ง

อยากรู้กันหรือเปล่าว่าทำไมโรงเรียนเล็กๆ ถึงสามารถสร้างผลลัพธ์อันน่าเหลือเชื่อในการเรียนของเด็กๆ ได้ โรงเรียนเล็กๆ ได้มีมากขึ้นทุกวันๆ และทั่วทั้งประเทศอังกฤษ ตั้งแต่รัฐบาลออกกฎให้ใครสามารถเปิดโรงเรียนก็ได้ โรงเรียนอนุบาลก็มีมากขึ้นทั่วทั้งประเทศ บางสถาบันมีการเรียนรู้ที่น่าสนใจกันเลยทีเดียว บริติช เออร์ลี่ เยียรส์ เซ็นเตอร์ (British Early Years Centre) ถือว่าเป็นโรงเรียนที่ไม่ใหญ่มากนัก และก็ช่างเป็นสิ่งที่น่ายินดีเหลือเกินที่ผู้คนเดี๋ยวนี้เริ่มเข้าใจความสำคัญของโรงเรียนเล็กๆ ที่สามารถสร้างผลลัพธ์อันน่าทึ่งให้กับเด็กๆ และผู้ปกครอง ข้างล่างนี้ก็คือเหตุผลว่า ทำไมโรงเรียนเล็กๆถึงเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณาให้ลูกๆ หลานๆ เข้ามาศึกษากันค่ะ บรรยากาศที่สัมผัสถึงความเป็นครอบครัวเดียวกัน จากรายงานล่าสุดของ Ofsted ได้บอกว่า โรงเรียนเล็กๆ และบรรยากาศที่สัมผัสถึงความเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างนี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อให้กับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการและสังคมการเรียนรู้ในโรงเรียน กำไรสำหรับเด็กๆที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนที่เล็กกว่าคือพวกเขาสามารถที่จะได้รู้จักอาจารย์ผู้สอนหรือเพื่อนๆ ได้ดีกว่า และพวกเขายังสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ดีกว่าด้วย ในโรงเรียนที่ใหญ่กว่า เด็กๆจะเข้าใจระบบการเรียนการสอนหรือความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ หรือเพื่อนนักเรียนด้วยกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร แน่นอนว่าผลกระทบเช่นนี้ไม่ดีต่อนักเรียนเท่าไหร่นัก จากงานวิจัยของ Cotton ในหัวข้อ “New Small Learning Communities” ล่าสุดจาก Recent Literature กล่าวว่า “เมื่อครูและนักเรียนสามารถสร้างความสัมพันธ์ทีดีต่อกัน บอกได้เลยว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะสร้างความสำเร็จที่น่าพึงพอใจเป็นแน่ อีกทั้งคุณครูสามารถที่ให้ความรู้กับนักเรียนทุกๆ คนได้ดีกว่าโรงเรียนใหญ่ๆ…

Read More