ถั่วพีแคน คุณค่าเปี่ยมประโยชน์ ป้องกันโรค

ถั่วพีแคน (pecan nut) เป็นต้นไม้ดั้งเดิมในอเมริกาเหนือ ชื่อนี้มาจากภาษาอินเดียนแดง โดยถั่วพีแคนเนี่ย สามารถเอามาทานเล่นและทำขนมได้หลายหลาย แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเราด้วยน่ะ เพราะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย โลมา ลินดา กล่าวว่าการรับประทานถั่วพีแคน สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้ เนื่องจากในถั่วชนิดนี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติที่มีคุณสมบัติลดการอักเสบในหลอดเลือดแดง  โดยนักวิจัยได้ศึกษาจากผู้ชายและผู้หญิงจำนวน 16 คน พบว่าการรับประทานถั่วพีแคนช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดีในเลือด ที่เป็นปัจจัยก่อให้เกิดโรคหัวใจได้ถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการพัฒนาของโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น นอกจากนี้ประโยชน์ที่สำคัญ พีแคนเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่สำคัญของกรดเอลลาจิก มีสารอาหารที่จำเป็นเช่น วิตามินอี ซีลีเนียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม แลไขมันไม่อิ่มตัวเชิงช้อนปริมาณที่พอเหมาะ    ดังนั้นควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ ซึ่งปริมาณที่ควรทานประมาณ  5 เมล็ดหนัก 30 กรัม หรือจะทานผสมกับถั่วอื่นๆให้ได้อย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ถึงร้อยละ 30-50 สำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงแนะนำให้รับประทานเป็นประจำ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ถั่วพีแคนถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้อีกอย่างหนึ่งนะคะ คุณประโยชน์มากมายหาซื้อติดบ้านเอาไว้ก็ไม่เสียหายนะคะ จะได้มีสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าคะ ขอบคุณแหล่งความรู้จาก www.siamrad.com และ www.thaihealth.or.th

Read More

เค้กแครอท (sugar-free)

เค้กแครอทแบบน้ำตาลน้อย หรือ sugar free กันซึ่งหลายคนคงสงสัยว่าไม่มีน้ำตาลเลยมันจะทานได้มั้ย เราไม่ใช้น้ำตาลคะแต่เราใช้สารให้ความหวานหรือไซลิทอลแทนคะ ซึ่งตัวไซลิทอลนี้ทำมาจากเปลือกของต้น  Birch มันเลยทำให้มีรสหวานและสามารถใช้แทนน้ำตาลได้ในบางสูตรอาหาร และมีค่า GI (Glycemic Index) ค่อนข้างน้อยแต่อย่างไรก็ตามถ้าทานมากเกินไปในคนที่มีความเสี่ยงหรือเป็นเบาหวานนั้นอาจจะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นควรทานด้วยความพอดีนะคะ ไซลิทอลสามารถหาซื้อได้ง่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายอาหารสุขภาพ เมื่อเรารู้ความเป็นมาของไซลิทอลแล้วมาเริ่มทำเค้กแคทรอทแบบไม่มีน้ำตาลกันเลยคะ วัตถุดิบ – ถั่วพีแคน  100 กรัม – แป้งทำขนมปัง (ที่ร่อนแล้ว)  140 กรัม – ผงอบเชย  2 ช้อนชา – เบคกิ้งโซดา  1 ช้อนชา – ไซลิทอล  140 กรัม – ไข่ไก่  2 ฟอง (ถ้าอยู่ในตู้เย็นควรเอาออกมาวางไว้ข้างนอกสักพัก) – น้ำมันเรพซีด  140 มิลลิลิตร – แครอทหั่นฝอย 175 กรัม – ลูกเกดขาว  100…

Read More

ลดความเสี่ยงการแท้งลูก

การแท้งลูกสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 20 อาทิตย์แรกของการตั้งครรภ์ ส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นภายใน 12 อาทิตย์แรกก็เป็นได้ค่ะ ทำไมผู้หญิงบางคนถึงประสบกับปัญหาการแท้งลูก สำหรับการแท้งลูกในช่วงระยะเวลา 3 เดือนแรกหรือก่อนหน้านั้น เกิดขึ้นจากการมีโครโมโซน (Chromosomes) ที่ไม่ตรงกัน เนื่องมาจากไข่ไม่ได้มีการพัฒนาอย่างที่มันควรจะเป็น อย่างไรก็ตามการแท้งลูกสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์เองหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย บางครั้งการปฎิสนธิอาจจะมีปัญหาในเกี่ยวกับโครโมโซมแต่รกจะทำหน้าที่ซ่อนฮอร์โมนนั้นให้ดูเหมือนทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ ถ้าหากมีการตรวจครรภ์มันจะแสดงได้เห็นว่าครรภ์เป็นปกติ หรืออาจจะมีสัญญาบ่งบอกว่าตัวอ่อน (Embryo) ไม่ได้มีการพัฒนาใดๆ แต่หลังจาก 6 อาทิตย์ ถ้าหาว่าการเต้นของหัวใจเป็นปกติและไม่มีอาการอื่นๆ เกิดขึ้น โอกาสที่จะแท้งลูกก็น้อยลง อะไรที่ทำให้โอกาสที่จะประสบกับการแท้งลูกสูงขึ้น  มันก็ฟังดูไม่ยุติธรรมเท่าไหร่ที่คุณผู้หญิงบางท่านที่มีแนวโน้มว่าจะประสบกับภาวการณ์แท้ง เหตุผลเป็นเพราะอะไร เรามาดูกันค่ะ โรคร้าย หรือ ความผิดปกติ มีประวัติการแท้งลูกมาก่อน การติดเชื่อ โรคอ้วน การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือมีการใช้ยาเสพติด (รวมถึงมีเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน ในปริมาณที่เยอะ) ผลภาวะแวดล้อม ยาปฎิชีวะนะ อายุ มดลูก หรือ ช่องคลอดมีปัญหา สัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะประสบกับการแท้งลูก การมีเลือดซึมกะปริดกะปรอยจากช่องคลอด คือ หนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะประสบกับการแท้งลูก การปวดในช่วงท้องก็เป็นอาการที่ปกติที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งตกใจไป เพราะทั้งสองอาการนั้น…

Read More

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์

ช่วงตั้งครรภ์เป็นเวลาที่ขึ้นชื่อเรื่องการอยากทานอาหารแปลกๆและมีอิสระที่จะทานอาหารอะไรก็ตามที่คุณจะไม่รู้สึกผิด  จริงอยู่ที่ในขณะเดียวกันคุณต้องทานอาหารสำหรับสองคน  ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องเลือกทานอาหารที่ถูกต้องและดีต่อคุณและลูกของคุณด้วย  โดยรวมแล้วคุณควรจะมีความสมดุลในการเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและแร่ธาตุที่ครบถ้วนซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ของคุณด้วย  คุณจำเป็นที่จะต้องเสริมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆด้วยตัวคุณเอง  เนื่องจากคุณจะสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไปมากกว่าปกติ  ด้วยเหตุนี้มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณรู้ว่าสารอาหารอะไรที่จำเป็นต่อคุณในช่วงที่คุณตั้งครรภ์  มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณจะวางแผนการทานอาหารของคุณก่อนล่วงหน้า  เนื่องจากความจำเป็นที่ร่างกายของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลงจากการตั้งครรภ์  ความอยากอาหารและอาการแพ้ท้องจะส่งผลต่อแผนการในขณะนั้น  ดังนั้นมันดีกว่าที่คุณจะมีแผนการสำรองล่วงหน้าสำหรับเมนูอาหารที่คุณจะสามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างช่วงที่ร่างกายของคุณปฏิเสธเมื่อคิดถึงอาหารเหล่านั้น  สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือทานอาหารบางอย่างจะช่วยบรรเทาอาการป่วยและสาเหตุของการอาเจียนลงได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่เพียงแค่คุณทานอาหารที่ร่ายกายของคุณจำเป็นแล้วนั้น แต่อาหารที่คุณทานอย่างเพลิดเพลินและทำให้คุณมีความสุข  ช่วยยกระดับอารมณ์ของคุณเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยล้า อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ก่อนอื่นเลยมันมีอาหารบางอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  คุณอาจจะคาดคิดไม่ถึงแต่มีอาหารบางอย่างที่สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้  อย่างเช่น  ภาวะขาดน้ำและยิ่งไปกว่านั้นคือภาวะแท้งบุตร  มีอาหารบางอย่างที่สามารถส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีของลูกของคุณ  โอเมก้า3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ในปลานั้นเป็นสิ่งที่ดีมากต่อการพัฒนาของลูกของคุณ  แต่อย่างไรก็ตามนั้นมีอาหารบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อพัฒนาการของลูกของคุณ  รายการอาหารที่จะกล่าวต่อไปนี้  คุณควรจะหลีกเลี่ยงไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเพื่อการพัฒนาของลูกของคุณหรือสุขภาพของคุณเอง  เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดบุตรแบบธรรมชาตินั่นเอง ไข่ดิบ  – แบคทีเรียที่พบในไข่ดิบหรือไข่สุกนั้นสามารถก่อให้เกิดการเป็นไข้, อาเจียนและท้องเสียได้  ในกรณีที่รุนแรงอาจมีความเสี่ยงให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษจากซัลโมเนลลาด้วย  หากคุณไม่ได้เตรียมอาหารด้วยตัวเอง  คุณควรจะหยุดการสั่งอาหารที่มีไข่ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงให้สุก ปลาดิบ – ปลาดิบบางชนิดอาจมีพยาธิอาศัยอยู่ซึ่งจะเป็นพิษต่อตัวคุณได้  ถึงแม้ว่าคุณจะชอบทานปลาดิบและซูชิมากแค่ไหน  มันอาจจะดีกว่าที่คุณควรจะหลีกเลี่ยงไม่ทานในช่วงตั้งครรภ์ ปลาชนิดอื่นๆ – ปลาบางชนิด เช่น ปลากระโทงแทงนั้นเป็นที่รู้กันดีว่ามีสารปรอทปนเปื้อนอยู่ในเนื้อปลาเป็นจำนวนมาก  หันมาทานปลาแซลมอน, ปลาพอลล็อคและปลาทูน่าดีกว่า  เพราะมีโอเมก้า3และมีสารปรอทอยู่ต่ำมาก คาเฟอีน – (ในปริมาณที่สูง) – ขณะที่คุณแม่มือใหม่หลายๆคนกำลังพยายามงดดื่มกาแฟนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับพวกเขามาก  โชคดีก็คือว่ามันไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น  เพราะในความเป็นจริงแล้วผลการศึกษาล่าสุดแนะนำว่ากาแฟนั้นมีประโยชน์สำหรับร่างกาย  แต่ที่ถูกกล่าวว่า …

Read More

สลัดเกรปฟรุต ส้ม และแอปริคอท

สลัดเมนูแสนง่ายที่ทุกคนก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องทักษะการเข้าครัวแต่อย่างไร ยิ่งราดด้วยน้ำผึ้งเพิ่มความหวานนิดๆช่างเป็นอะไรที่เข้ากันมาก วัตถุดิบ – เกรปฟรุต  2  ผล (ปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว) – ส้ม  4 ผล (ปลอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว) – แอปริคอท  4 ผล (สไลด์เป็นชิ้นๆเรียบร้อยแล้ว) – น้ำผึ้ง  1 ช้อนโต๊ะ – ผักสลัดต่างๆ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) ขั้นตอนการทำ นำเกรปฟรุต ส้ม มาปลอกเปลือกและคั้นเอาแต่น้ำออกมาจากนั้นเตรียมผักสลัดต่างๆตามใจชอบใส่ลงในจานพร้อมเสริฟ แล้วผสมน้ำเกรปฟรุต ส้ม และน้ำผึ้งคนให้เข้ากันและราดบนผักสลัดที่เตรียมไว้จากนั้นตกแต่งด้วยแอปพริคอทแห้งหรือผลไม้อบแห้งอื่นๆที่ชอบ ขอบคุณสูตรจาก www.bbcgoodfood.com

Read More

เติมความสดชื่นให้ร่างกายกับเมลอนขิงสมูทตี้

หากคุณเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหรือการออกกำลัง แนะนำเมนูนี้รับรองเลยว่าจะได้ความสดชื่นจากเมลอนและหอมอ่อนๆของขิง ถ้าหากคุณหาเมลอนไม่ได้สามารถใช้แคนตาลูปแทนได้คะ วัตถุดิบ – เมลอนหรือแคนตาลูปหั่นเป็นชิ้น  1 ถ้วย – กีวีที่ปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น 1/3 ถ้วย – กล้วยสุกประมาณ ½ ลูก – น้ำองุ่นขาว  ¼ ถ้วย – น้ำขิง  ½  ช้อนชา – น้ำมะนาว  2 ช้อนชา – Lemon sorbet 1/3 ถ้วย – น้ำแข็ง  ½ ถ้วย ขั้นตอนการทำ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในโถปั่น ปั่นไปสักพักจะเริ่มเห็นส่วนผสมเข้ากันได้ดีเหนียวเหมือนสมูทตี้ เทใส่ในแก้วตกแต่งด้วยใบมิ้นต์หรือใบสาระแหน่เพิ่มความสวยงาม ข้อมูลโภชนาการที่จะได้รับจากเมลอนขิงสมูทตี้ 1 แก้ว ดังนี้ – เมลอนขิงสมูทตี้ 1 แก้วจะได้รับ 136 แคลอรี่ – ไขมัน  0  กรัม…

Read More

วันนี้คุณรู้จักกรดโฟเลตดีหรือยัง (Folate Acid)

คุณรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยโฟเลต (Folate) เพียงพอหรือยัง ต้องย้อนถามตัวเองกันหน่อยเสียแล้ว  การรับประทานอาหารที่มีมีกรดโฟลิก (Folic Acid) อย่างเพียงพอขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง  มีการวิจัยออกมาว่าถ้าหากร่างกายขาดกรดโฟลิก เราจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า เป็น 1 ใน 10 ผู้หญิงตั้งครรภ์จะประสบกับปัญหานี้ ถ้าหากว่าเราได้รับกรดโฟลิกในประมาณที่มากพอที่ร่างกายของเราต้องการก็จะเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม เพราะกรดโฟลิกเป็นกรดที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะมันคือสารอาหารที่หายากและยังช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของเลือดเรา และยังช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวรวมไปถึงการป้องกันการโรคโลหิตจาง ส่วนมากแล้วคุณจะรู้จักกรดโฟลิกในนามของ วิตามิน B9 เพราะมันคือสิ่งเดียวกันค่ะ เป็นกรดที่สามารถป้องกันการมาเยือนของโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimers), มะเร็ง หรือแม้แต่ ความผิดปกติของทารกได้ กรดโฟเลตและกรดโฟลิกเป็นวิตามินที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่ใช่วิตามินเดียวกัน โฟเลต (Folate) คือ วิตามินที่สกัดมาจากวิตามิน B9 จะมีมากในอาหารสีเขียว เช่น พืชผักต่าง ส่วน กรดโฟลิก (Folic) คือ สารสังเคราะห์จากวิตามิน ซึ่งจะมีมากในอาหารเสริม สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครรภ์ของคุณคือการได้รับสารอาหารที่เต็มไปด้วยกรดโฟเลต ผักสีเขียวเข้มจะประกอบไปด้วยกรดโฟเลต (Folate) สูงอย่างผักขม และกะหล่ำ และช่วยในเรื่องของสมาธิได้ดีด้วยและก็พยายามกินอาหารหลายๆ ชนิดในแต่ละวันนะคะ หรือคุณสามารถเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของปริมาณการรับประทานอาหารของคุณแม่ที่กำลังอุ้มท้องก็ดีค่ะ อาหารที่มีกรดโฟเลตสูง (จาก globalhealingcenter.com) แสดงให้เห็นถึงเปอร์เซ็นต์ของค่าสารอาหารแต่ละวัน…

Read More

ก่อนจะอ้าปากรับประทานอะไร "คุณแม่หลังคลอด" ฟังทางนี้ค่ะ

ช้าก่อนค่ะ!!!!  อย่าคิดว่าอาหารทุกอย่างจะดีสำหรับคุณนะคะ โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด เรามาดู หลักการรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง สำหรับคุณแม่มือใหม่หลังจากมีลูกน้อยที่น่ารักอยู่ในอ้อมอกแล้วก็ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการกลับมาดูแลตัวเองและควบคุมน้ำหนักให้กลับมาเหมือนเดิมใช่ใหมละคะ แต่การรับประทานอาหารของคุณแม่มือใหม่จะไม่เหมือนกันกับการรับประทานอาหารปกติอย่างที่เราคิด คุณแม่หลังคลอดจำเป็นต้องบริโภคอาหารประเภทที่สามารถเสริมสร้างโภชนาการที่สำคัญเพื่อมาทดแทนสุขภาพร่างกายที่คุณแม่ได้ขาดไปหลังคลอด แต่ก็ยังมีอาหารประกอบไปด้วยไขมันที่ไร้ประโยชน์ต่อร่างกายเราเช่นกัน แตกต่างจากผู้ที่สามารถรับประทานอาหารปกติค่ะ ร่างกายของคุณแม่มือใหม่จำเป็นต้องรับโภชนาการเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี และเพื่อลูกน้อยด้วยเพราะช่วงระยะของการตั้งครรภ์ เราได้สูญเสียพลังกำลังทางด้านร่างกายและสุขภาพจิตไป คุณแม่หลังคลอดหลายท่านมักจะประสบกับความเหนื่อยล่า และบางท่านถึงกับประสบกับโรคซึมเศร้า ถ้าหากคุณประสบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ/อดหลับอดนอนพอขณะตั้งครรภ์ มันอาจจะโอกาสสืบเนื่องต่อไปได้  ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร หรือ การรับประทานอาหาร ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่หลังคลอด เพราะมันไม่ใช่แค่รักษาอาการตกเลือดหลังคลอด แต่มันคืออาวุธสำคัญที่เราจะใช้ต่อสู่กับโรคซึมเศร้าอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณได้รับพลังงานเต็มที่เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัวค่ะ อาหารที่กล่าวมาข้างล่างนี้จะช่วยให้คุณได้รับพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายคุณเต็มที่และเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำหนัก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอาหารเสริมสร้างสุขภาพของคุณและความสุขของคุณค่ะ เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง เติมพลังให้ตัวเองด้วยโปรตีน (Proteins)           สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึง คือ อาหารที่ร่างกายของคุณจำเป็นในการต่อสู้กับความหิวโหย การเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงกว่าคาร์โบไฮเดรต แน่นอนว่าอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะทำให้เราอิ่มเร็วและทำให้เราพึงพอใจ นั้นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งผ่าคลอดมาร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรตนี้แปลงเป็นไขมันเพราะร่างกายของคุณกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นและไม่สามารถเผาผลาญไขมันได้นั้นเองค่ะ อาหารที่มีโปรตีนสูงได้แก่ ปลา เนื้อ ไข่ ทั้งหมดนี้มีธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 สูง และพร้อมที่จะเสริมสร้างระดับพลังงานของเราได้อีกด้วย การเสริมสร้างวิตามินที่จำเป็น (Vitamins) คุณอาจจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป มันไม่ใช่แค่การที่คุณตั้งครรภ์ที่ทำให้คุณต้องเสริมสร้างวิตามินกลับมาใหม่ แต่มันรวมไปถึงการมีผลิตน้ำนมด้วย ที่เป็นสาเหตุให้คุณสูญเสียวิตามินที่จำเป็นอย่างยิ่ง…

Read More

เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ อาหารว่างยามบ่าย

เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ เป็นการผสมผสานที่เข้ากันระหว่างวนิลลาโยเกิร์ตและครีมชีสโรยหน้าด้วยผลไม้สดพวกเบอร์รี่ทำให้เกิดความสดชื่นอย่างมากเหมาะแก่เป็นอาหารว่างหรือยามอ่อนล้าได้ดีทีเดียว วัตถุดิบ – ครีมชีส  4 ออนซ์ – โยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือวนิลา ¾ ถ้วย – น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา – น้ำเลมอน 2 ช้อนชา – บลูเบอร์รี่สด หรือจะเปลี่ยนเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดอื่นก็ได้ตามแต่ชอบเลย 2 ถ้วย ขั้นตอนการทำ ละลายครีมชีสที่เตรียมไว้ จากนั้นตีครีมชีสกับน้ำผึ้งด้วยเครื่องตีไฟฟ้าความแรงสูงสุด ตีจนกว่าส่วนผสมจะขึ้นเป็นครีมและเติมน้ำเลมอนให้เข้ากันหลังจากส่วนผสมขึ้นเป็นครีมแล้ว เตรียมแก้วไวน์หรือถ้วยแก้วสวยๆ แล้วใส่ครีมที่ตีเสร็จแล้วสลับกับบลูเบอร์รี่ทำเป็นชั้นๆ หรือจะเปลี่ยนเป็นกีวีก็ได้นะคะ เมื่อทำเสร็จให้แล้วให้นำเข้าตู้เย็นประมาณ 8 ชั่วโมงและปิดปากถ้วยหรือปากแก้วด้วยพลาสติกด้วยนะคะ ไม่งั้นจะทำให้หน้าขนมแห้งไม่น่ารับประทานคะ ข้อมูลโภชนาการที่จะได้รับจากเลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ 1 แก้ว ดังนี้ – เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ 1 ถ้วยจะได้รับ 156 แคลอรี่ – ไขมัน 7 กรัม – คอเรสเตอรอล 22 มิลลิกรัม – คาร์โบไฮเดรต…

Read More

ข้าวโอ๊ตอบแอปริคอทกับอัลมอนด์

ข้าวโอ๊ตอบกับแอปริคอทกับอัลมอนด์ วัตถุดิบ – ข้าวโอ๊ต 2 ½  ถ้วย – เบคกิ้งโซดา  1 ช้อนชา – อบเชย  2 ช้อนชา – ขิงผง  ½ ช้อนชา – เกลือ  1 ช้อนชา – อัลมอนด์หั่นหยาบ  1 ½  ถ้วย – แอปริคอทแห้งหั่นหยาบ  1 ½ ถ้วย – นมสด  1 ถ้วย – ครีมสด   ถ้วย – น้ำผึ้ง  ถ้วย – น้ำตาลทรายแดง   ถ้วย – ไข่ไก่  1 ฟอง – เนย  ถ้วย (แบ่งใช้ 2…

Read More