เติมความสดชื่นให้ร่างกายกับเมลอนขิงสมูทตี้

หากคุณเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานหรือการออกกำลัง แนะนำเมนูนี้รับรองเลยว่าจะได้ความสดชื่นจากเมลอนและหอมอ่อนๆของขิง ถ้าหากคุณหาเมลอนไม่ได้สามารถใช้แคนตาลูปแทนได้คะ วัตถุดิบ – เมลอนหรือแคนตาลูปหั่นเป็นชิ้น  1 ถ้วย – กีวีที่ปลอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้น 1/3 ถ้วย – กล้วยสุกประมาณ ½ ลูก – น้ำองุ่นขาว  ¼ ถ้วย – น้ำขิง  ½  ช้อนชา – น้ำมะนาว  2 ช้อนชา – Lemon sorbet 1/3 ถ้วย – น้ำแข็ง  ½ ถ้วย ขั้นตอนการทำ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในโถปั่น ปั่นไปสักพักจะเริ่มเห็นส่วนผสมเข้ากันได้ดีเหนียวเหมือนสมูทตี้ เทใส่ในแก้วตกแต่งด้วยใบมิ้นต์หรือใบสาระแหน่เพิ่มความสวยงาม ข้อมูลโภชนาการที่จะได้รับจากเมลอนขิงสมูทตี้ 1 แก้ว ดังนี้ – เมลอนขิงสมูทตี้ 1 แก้วจะได้รับ 136 แคลอรี่ – ไขมัน  0  กรัม…

Read More

วันนี้คุณรู้จักกรดโฟเลตดีหรือยัง (Folate Acid)

คุณรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยโฟเลต (Folate) เพียงพอหรือยัง ต้องย้อนถามตัวเองกันหน่อยเสียแล้ว  การรับประทานอาหารที่มีมีกรดโฟลิก (Folic Acid) อย่างเพียงพอขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง  มีการวิจัยออกมาว่าถ้าหากร่างกายขาดกรดโฟลิก เราจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า เป็น 1 ใน 10 ผู้หญิงตั้งครรภ์จะประสบกับปัญหานี้ ถ้าหากว่าเราได้รับกรดโฟลิกในประมาณที่มากพอที่ร่างกายของเราต้องการก็จะเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม เพราะกรดโฟลิกเป็นกรดที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะมันคือสารอาหารที่หายากและยังช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของเลือดเรา และยังช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวรวมไปถึงการป้องกันการโรคโลหิตจาง ส่วนมากแล้วคุณจะรู้จักกรดโฟลิกในนามของ วิตามิน B9 เพราะมันคือสิ่งเดียวกันค่ะ เป็นกรดที่สามารถป้องกันการมาเยือนของโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimers), มะเร็ง หรือแม้แต่ ความผิดปกติของทารกได้ กรดโฟเลตและกรดโฟลิกเป็นวิตามินที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่ใช่วิตามินเดียวกัน โฟเลต (Folate) คือ วิตามินที่สกัดมาจากวิตามิน B9 จะมีมากในอาหารสีเขียว เช่น พืชผักต่าง ส่วน กรดโฟลิก (Folic) คือ สารสังเคราะห์จากวิตามิน ซึ่งจะมีมากในอาหารเสริม สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับครรภ์ของคุณคือการได้รับสารอาหารที่เต็มไปด้วยกรดโฟเลต ผักสีเขียวเข้มจะประกอบไปด้วยกรดโฟเลต (Folate) สูงอย่างผักขม และกะหล่ำ และช่วยในเรื่องของสมาธิได้ดีด้วยและก็พยายามกินอาหารหลายๆ ชนิดในแต่ละวันนะคะ หรือคุณสามารถเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของปริมาณการรับประทานอาหารของคุณแม่ที่กำลังอุ้มท้องก็ดีค่ะ อาหารที่มีกรดโฟเลตสูง (จาก globalhealingcenter.com) แสดงให้เห็นถึงเปอร์เซ็นต์ของค่าสารอาหารแต่ละวัน…

Read More

ก่อนจะอ้าปากรับประทานอะไร "คุณแม่หลังคลอด" ฟังทางนี้ค่ะ

ช้าก่อนค่ะ!!!!  อย่าคิดว่าอาหารทุกอย่างจะดีสำหรับคุณนะคะ โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอด เรามาดู หลักการรับประทานอาหารสำหรับคุณแม่หลังคลอดกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง สำหรับคุณแม่มือใหม่หลังจากมีลูกน้อยที่น่ารักอยู่ในอ้อมอกแล้วก็ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าการกลับมาดูแลตัวเองและควบคุมน้ำหนักให้กลับมาเหมือนเดิมใช่ใหมละคะ แต่การรับประทานอาหารของคุณแม่มือใหม่จะไม่เหมือนกันกับการรับประทานอาหารปกติอย่างที่เราคิด คุณแม่หลังคลอดจำเป็นต้องบริโภคอาหารประเภทที่สามารถเสริมสร้างโภชนาการที่สำคัญเพื่อมาทดแทนสุขภาพร่างกายที่คุณแม่ได้ขาดไปหลังคลอด แต่ก็ยังมีอาหารประกอบไปด้วยไขมันที่ไร้ประโยชน์ต่อร่างกายเราเช่นกัน แตกต่างจากผู้ที่สามารถรับประทานอาหารปกติค่ะ ร่างกายของคุณแม่มือใหม่จำเป็นต้องรับโภชนาการเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี และเพื่อลูกน้อยด้วยเพราะช่วงระยะของการตั้งครรภ์ เราได้สูญเสียพลังกำลังทางด้านร่างกายและสุขภาพจิตไป คุณแม่หลังคลอดหลายท่านมักจะประสบกับความเหนื่อยล่า และบางท่านถึงกับประสบกับโรคซึมเศร้า ถ้าหากคุณประสบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอ/อดหลับอดนอนพอขณะตั้งครรภ์ มันอาจจะโอกาสสืบเนื่องต่อไปได้  ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร หรือ การรับประทานอาหาร ล้วนเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่หลังคลอด เพราะมันไม่ใช่แค่รักษาอาการตกเลือดหลังคลอด แต่มันคืออาวุธสำคัญที่เราจะใช้ต่อสู่กับโรคซึมเศร้าอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณได้รับพลังงานเต็มที่เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัวค่ะ อาหารที่กล่าวมาข้างล่างนี้จะช่วยให้คุณได้รับพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายคุณเต็มที่และเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำหนัก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอาหารเสริมสร้างสุขภาพของคุณและความสุขของคุณค่ะ เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง เติมพลังให้ตัวเองด้วยโปรตีน (Proteins)           สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึง คือ อาหารที่ร่างกายของคุณจำเป็นในการต่อสู้กับความหิวโหย การเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงกว่าคาร์โบไฮเดรต แน่นอนว่าอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะทำให้เราอิ่มเร็วและทำให้เราพึงพอใจ นั้นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งผ่าคลอดมาร่างกายจะนำคาร์โบไฮเดรตนี้แปลงเป็นไขมันเพราะร่างกายของคุณกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นและไม่สามารถเผาผลาญไขมันได้นั้นเองค่ะ อาหารที่มีโปรตีนสูงได้แก่ ปลา เนื้อ ไข่ ทั้งหมดนี้มีธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 สูง และพร้อมที่จะเสริมสร้างระดับพลังงานของเราได้อีกด้วย การเสริมสร้างวิตามินที่จำเป็น (Vitamins) คุณอาจจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป มันไม่ใช่แค่การที่คุณตั้งครรภ์ที่ทำให้คุณต้องเสริมสร้างวิตามินกลับมาใหม่ แต่มันรวมไปถึงการมีผลิตน้ำนมด้วย ที่เป็นสาเหตุให้คุณสูญเสียวิตามินที่จำเป็นอย่างยิ่ง…

Read More

เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ อาหารว่างยามบ่าย

เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ เป็นการผสมผสานที่เข้ากันระหว่างวนิลลาโยเกิร์ตและครีมชีสโรยหน้าด้วยผลไม้สดพวกเบอร์รี่ทำให้เกิดความสดชื่นอย่างมากเหมาะแก่เป็นอาหารว่างหรือยามอ่อนล้าได้ดีทีเดียว วัตถุดิบ – ครีมชีส  4 ออนซ์ – โยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือวนิลา ¾ ถ้วย – น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา – น้ำเลมอน 2 ช้อนชา – บลูเบอร์รี่สด หรือจะเปลี่ยนเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ชนิดอื่นก็ได้ตามแต่ชอบเลย 2 ถ้วย ขั้นตอนการทำ ละลายครีมชีสที่เตรียมไว้ จากนั้นตีครีมชีสกับน้ำผึ้งด้วยเครื่องตีไฟฟ้าความแรงสูงสุด ตีจนกว่าส่วนผสมจะขึ้นเป็นครีมและเติมน้ำเลมอนให้เข้ากันหลังจากส่วนผสมขึ้นเป็นครีมแล้ว เตรียมแก้วไวน์หรือถ้วยแก้วสวยๆ แล้วใส่ครีมที่ตีเสร็จแล้วสลับกับบลูเบอร์รี่ทำเป็นชั้นๆ หรือจะเปลี่ยนเป็นกีวีก็ได้นะคะ เมื่อทำเสร็จให้แล้วให้นำเข้าตู้เย็นประมาณ 8 ชั่วโมงและปิดปากถ้วยหรือปากแก้วด้วยพลาสติกด้วยนะคะ ไม่งั้นจะทำให้หน้าขนมแห้งไม่น่ารับประทานคะ ข้อมูลโภชนาการที่จะได้รับจากเลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ 1 แก้ว ดังนี้ – เลมอนครีมกับบลูเบอร์รี่ 1 ถ้วยจะได้รับ 156 แคลอรี่ – ไขมัน 7 กรัม – คอเรสเตอรอล 22 มิลลิกรัม – คาร์โบไฮเดรต…

Read More

ข้าวโอ๊ตอบแอปริคอทกับอัลมอนด์

ข้าวโอ๊ตอบกับแอปริคอทกับอัลมอนด์ วัตถุดิบ – ข้าวโอ๊ต 2 ½  ถ้วย – เบคกิ้งโซดา  1 ช้อนชา – อบเชย  2 ช้อนชา – ขิงผง  ½ ช้อนชา – เกลือ  1 ช้อนชา – อัลมอนด์หั่นหยาบ  1 ½  ถ้วย – แอปริคอทแห้งหั่นหยาบ  1 ½ ถ้วย – นมสด  1 ถ้วย – ครีมสด   ถ้วย – น้ำผึ้ง  ถ้วย – น้ำตาลทรายแดง   ถ้วย – ไข่ไก่  1 ฟอง – เนย  ถ้วย (แบ่งใช้ 2…

Read More

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการคลอดบุตรด้วยการผ่าท้อง (C-Section)

การคลอดบุตรด้วยการผ่าท้อง (Cesarean Section)  เรามาทำความรู้จักกับการคลอดบุตรด้วยการผ่าท้องกันดีกว่าว่ามันคืออะไรและเป็นอย่างไร (?) เมื่อทารกอยู่ในวัยเจริญเติบโตเต็มที่และพร้อมที่จะผ่าออกมาได้จากท้องน้อยและมดลูกของแม่ การทำคลอดแบบการผ่าท้องสามารถมีการเตรียมการล่วงหน้าได้ หรือ บางครั้งอาจจะมีการผ่าอย่างกะทันหันอันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ภาวะแทรกซ้อนอย่างไรที่จะนำไปสู่การผ่าคลอดอย่างกะทันหัน (?) ภาวะแทรกซ้อนที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการผ่าคลอดอย่างกะทันหัน มีอยู่ไม่กี่สาเหตุค่ะ เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง การเต้นของหัวใจของทารกมีการเปลี่ยนแปลง สายสะดือย่น (สายสะดือเลื่อนผ่านสู่ปากมดลูกและด้วยเหตุนี้ทำให้ทารกขาดออกซิเจน) รกลอกก่อนกำหนด (รกแยกจากผนังมดลูกและด้วยเหตุนี้ทำให้ทารกขาดออกซิเจน) หยุดหยั่งการเกิดโรคเริม ( Herpes ) (ทั้งในระยะการช่วงทำคลอดหรือก่อนหน้านี้) ปากมดลูกไม่สามารถขยาย เหตุผลที่คุณต้องมีการเตรียมพร้อมสำหรับการทำคลอดด้วยการผ่าตัด คุณอาจจะต้องมีการเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดด้วยเหตุผลดังนี้ : คุณเคยมีการทำคลอดด้วยการผ่าท้องมาก่อนความเสี่ยงสูงที่จะประสบกับการการแยกตัวของตัวมดสูงจึงสามารถส่งผลให้เกิดซ้ำสองเลย คุณเคยมีการผ่าตัดบริเวณผนังมดลูกมาก่อน คุณมีบุตรมามากกว่าหนึ่งคนแล้ว คุณกำลังตั้งครรภ์ทารกที่มีน้ำหนักตัวสูง ทารกของคุณมีความผิดปกติ มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้มีการคลอดเองลำบาก มีรกในมดลูกในปริมาณที่น้อย ทารกมีอยู่ในก้น (ก้นโพล่หรือด้านข้างของทารกโพล่) เกิดอะไรขึ้นกับเราบ้างขณะผ่าท้องทำคลอด ? แพทย์จะทำรอยผ่าตัดเป็นแนวนอนผ่านสะดือ เหนือหัวเหน่านิดหน่อย จากนั้นก็ทำการผ่าตัดตามรอยเส้นนั้นจนกระทั่งแพทย์ผ่าไปถึงผนังมดลูก จากนั้นกล้ามหน้าท้องของคุณจะถูกแยกออกจากกัน การผ่าตัดขั้นสุดท้าย (การผ่าทแยงเล็กน้อย) เผื่อทำการเปิดมดลูก และนำทารกออกจากท้อง หลังจากนั้นทารกก็จะถูกนำไปทำความสะอาดรกจากทารกออก หลังจากนั้นแพทย์ก็ทำการเย็บหน้าท้องกลับเข้าเหมือนเดิม จากนั้นลูกน้อยของคุณก็จะถูกนำไปพบกุมารแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็ค ขณะที่การเย็บหน้าท้อจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ไหมที่ใช้ในการเย็บจะเป็นไหมละลายและข้างนอกจะใช้ไหมปกติ และข้างนอกอาจจะใช้ด้ายปกติซึ่งสามารถทำการเอาออกได้ประมาณ…

Read More

สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการคลอดก่อนกำหนด

การคลอดก่อนกำหนดคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร การคลอดก่อนกำหนดคืออะไร ? การคลอดก่อนกำหนด (Preterm หรือ Premature Labour) เกิดขึ้นจากการขดตัวของมดลูกก่อนที่เขาจะย่างเข้าสู่อาทิตย์ที่ 37 แต่การหดตัวของมดลูกไม่จำเป็นจะต้องหมายความว่าจะมีการคลอดก่อนกำหนดเสมอไป เมื่อเราได้ทำการตรวจครรภ์และหมดให้คำแนะนำว่าอาจจะต้องมีการคลอดก่อนกำหนด นั้นมีผลมาจากความผิดปกติของทารก ในกรณีนี้การทำคลอดก่อนกำหนดนี้อาจจะต้องมีการดึงทารกหรือไม่ก็การผ่าท้องทำคลอด การแท้ง สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกันถ้าหากมีน้ำหลั่งออกมามากผิดปกติหรือปากมดลูกเปิดกว้างโดยไม่ได้ผ่านการทำคลอดอย่างถูกวิธี  แล้วลูกน้อยจะเป็นอย่างไรบ้าง หากมีการคลอดก่อนกำหนด ? การประสบกับอันตรายถึงชีวิตมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นสูงกับทารกที่คลอดก่อนกำหนด ยิ่งมีการคลอดก่อนกำหนดเร็วเท่าไหร่เด็กก็จะเสี่ยงประสบกับปัญหาสุขภาพมากเท่านั้น ปัญหาด้านสุขภาพประกอบไปด้วย เลือดคั่งในสมอง (Brain Haemorrhage), ระบบภายใน (Organ), ระบบประสาท (Nervous System) รวมไปถึงปัญหาการหายใจของทารกด้วย ทารกที่ผ่านการคลอดก่อนกำหนดมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายและประสบกับความยากลำบากในการเจริญเติบโต ส่วนทารกที่สามารถมีชีวิตรอดมักจะประสบกับปัญหาสุขภาพในระยะยาว ส่วนมากทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะคลอดในช่วงอาทิตย์ที่ 34 ถึง 37 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้สามารถที่ยืดเวลาการทำคลอดได้ประมาณสองถึงสามวัน ก่อนจะจะครบกำหนดอาทิตย์ที่ 34 และแพทย์สามารถให้ยาคอร์ติโคสติรอยด์ (Corticosteroids) ที่ช่วยลดบวมของปอดหรือระบบหายใจได้ อาจจะสามารถช่วยเหลือให้ทารกมีชีวิตรอดได้ มีสาเหตุอะไรบ้างที่ก่อให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด? มีอยู่หลายสาเหตุที่ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดแต่อาจจะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ สาเหตุที่ทำให้มีการคลอดก่อนกำหนดมีดังนี้ค่ะ มีการผ่าตัดหน้าท้องขณะตั้งครรภ์ มดลูกหรือปากมดลูกผิดปกติ ปากมดลูกเปิดกว้างผิดปกติ การติดเชื้อ อุบัติเหตุหรือหกล้มที่ส่งผลต่อบริเวณหน้าท้อง สถิติของผู้หญิงที่มีแนวโน้วว่าจะมีการคลอดก่อนกำหนดมีดังนี้ ผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ…

Read More

ทานตะวันงอกผักออร์แกนิคที่ใครๆก็ปลูกได้

เมล็ดทานตะวันงอกเป็นผักที่มาจากการเพาะเมล็ดซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มของคนรักสุขภาพ อีกทั้งมีคุณประโยชน์มากมายนั่นก็คือเมล็ดทานตะวันงอกมีโปรตีนที่สูงกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินเอและวิตามินอีสูง บำรุงสายตา ผิวพรรณ และชะลอความชรา มีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 ซึ่งช่วยบำรุงเซลล์สมองป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์และธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ในเมล็ดทานตะวัน 100 กรัม จะให้พลังงานแก่ร่างกาย 500 กิโลแคลอรี โปรตีน 23 กรัม ไขมัน 50 กรัม แคลเซียม 14.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 19 กรัม สังกะสี 5 มิลลิกรัม และโพรแทสเซียม 690 มิลลิกรัม เอาละคะเราพอรู้ประโยชน์ของเจ้าเมล็ดทานตะวันกันพอคร่าวๆ แล้วเรามาเริ่มต้นการเพาะกันดีกว่าซึ่งวิธีเพาะก็ง่ายแสนง่ายดังนี้เลย … อุปกรณ์ – เมล็ดทานตะวันสีดำ (black oil sunflower seeds) สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารนกหรืออาหารสัตว์ แต่เลือกเมล็ดพันธุ์สีดำ เพราะเมล็ดสีลายๆจะมีอัตราการงอกน้อย –…

Read More

น้ำตาลฟรุกโตส ความหวานที่โหดร้าย (Fructose)

ถ้าหากน้ำตาลฟรุกโตสไม่ดี แล้วฉันไม่ต้องให้ลูกๆดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แทนรึไง ? คำตอบ – คือ ไม่ใช่ อย่างแน่นอนค่ะ แล้วเราจะทำต้องทำอย่างไรล่ะที่จะไม่ทำร้ายตัวเองและลูกน้อยของเรา หลายๆ คนคงรู้กันว่าที่โรงเรียนของเรา (British Early Years Centre) ให้ความสำคัญเกี่ยวเรื่องอาหารการกินมาก การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในแต่ละมื้อของเด็กๆ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ Jamie Oliver เชฟทำอาหารชื่อดังได้ออกมาเชื้อเชิญให้ผู้คนใส่ใจในเรื่องอาหารการกินของเด็กๆ เราทุกคนต่างก็รู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินที่ดีต่อสุขภาพกันบ้าง แต่สำหรับบล็อกนี้เราจะชี้ให้เห็นถึง “ปัญหาที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป” เรามาทำความรู้จักกับน้ำตาลฟรุกโตสกันหน่อยดีกว่า น้ำตาลฟรุกโตสมีอยู่ในอาหารเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นของว่าง หรือ เครื่องดื่ม ถ้าหากคุณยังคิดไม่ออกว่ามีอะไรบ้างก็ให้ลองย้ำเข้าไปดูใน 7-11 บ้านเรานั้นแหละค่ะ แทบจะทุกอย่างในเซเว่น ล้วนมีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตสทั้งนั้น แต่ก่อนฉันเคยชอบดื่มชาเขียว โออิชิ (Oishi) มาก แต่เมื่อฉันรู้ว่ามันมีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่เยอะขนาดนั้นฉันก็เลยเปลี่ยนมาดื่มฟูจิ (Fuji) แทน กว่าฉันจะชินกับรสชาติของฟูจิ ก็ใช้เวลาพอสมควร เพราะตอนนั้นฉันติดความหวานของโออิชิมาก น้ำตาลก็เปรียบเสมือนยาเสพติด เมื่อเราได้รับความหวานจากน้ำตาลในปริมาณที่เยอะและบ่อยครั้ง สมองของเราก็จะเริ่มชินกับความหวานและขาดมันไม่ได้ เมื่อเรากินของหวานเราก็จะรู้สึกมีพลัง นั้นคือพฤติกรรมการเสพติดน้ำตาล เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับน้ำตาลที่สามารถทำร้ายคุณได้อย่างคาดไม่ถึง.. อย่างไรก็ตามนักออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัทใหญ่ๆต่างก็ป็นคนที่เฉลียวฉลาดเหลือเกิน และอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายที่แข็งแรง บริษัทต่างๆเหล่านั้นเลยเลยฉวยโอกาสตรงนั้นในเรื่องการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและทำให้มันดูน่าเชื่อถือและให้ผู้คนคิดว่าแท้จริงแล้วน้ำตาลดีต่อสุขภาพของเรา แต่ความเป็นจริงแล้ว…

Read More

Mini-Beast Hunt

Exploring the garden at BEYC at British Early Years Centre International kindergarten in Bangok

As part of their Mini-beast and creepy crawly topic Nursery children at the British Early Years Centre go on a hunt around the garden and playground for real and realistic beasts. The children were warned (are warned regularly) about dangerous and poisonous insects and snakes since the school is in Bangkok. Whilst most of the…

Read More